GREEN ฟุ้งพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ Q1/59 เล็งขยายไลน์เข้าสู่พลังงานทดแทน
GREEN ฟุ้งพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ Q1/59 เล็งขยายไลน์เข้าสู่พลังงานทดแทน
นายประทีป อนันตโชติ รองประธานกรรมการ บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 59 คาดจะพลิกกลับมามีกำไรได้ จากปีก่อนมีผลขาดทุน 40.50 ล้านบาท โดยจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ 2 โครงการ คือ โครงการร็อคเซีย จังหวัดมหาสารคาม มูลค่าโครงการ 175 ล้านบาท และโครงการออริจินส์ บางมด-พระราม 2 มูลค่าโครงการ 619.40 ล้านบาท
บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ที่ 800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 40.50 ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 100% ซึ่งโครงการออริจินส์ จะมียอดโอนในปีนี้ราว 600 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด 337 ยูนิต และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ ส่วนอีก 200 ล้านบาทจะมาจากโครงการร็อคเซีย
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดโอนทั้ง 2 โครงการตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.59 จะทำได้ 250 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการโอนโครงการมากในช่วงก่อนสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองในวันนี้
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 512 ล้านบาท โดยจะนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่มีอยู่กว่า 600 ล้านบาท มาล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมดในผลการดำเนินงานงวดปี 60 และจะกลับมาจ่ายปันผลในรอบ 5 ปี ในงวดผลการดำเนินงานปี 60 ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลภายในปี 61 โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 30% ของกำไรสุทธิ
แนวทางในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทมองการลงทุนทั้งรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเอง รวมไปถึงการเข้าซื้อโครงการอื่นเพื่อนำมาพัฒนาต่อ แต่ในปีนี้จะไม่มีการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างวางแผนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในโซนนนทบุรีหรือปทุมธานีในปี 60 มูลค่าราว 200 ล้านบาท รวมที่ดิน ปัจจุบันมองหาซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาแล้ว
นายประทีป กล่าวถึงการขยายธุรกิจไปสู่พลังงานทดแทนว่า บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเหลือจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ที่ระดมทุนได้ 500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรนอกตลาดหลักทรัพย์เพื่อเข้าซื้อหุ้นและทำธุรกิจเชื้อเพลิงจากขยะภาคอุตสาหกรรม โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้น 51% คาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลัง และร่วมทุนกับพันธมิตรตั้งบริษัทที่ปรึกษาจัดการพลังงาน (ESCO: Energy Service Company) คาดหวังถือหุ้น 51% เช่นเดียวกัน และน่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี่ บริษัทวางเป้าหมายลงทุนธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนภายใน 5-6 ปีข้างหน้า จะมีขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปร่วมในโครงการที่ภาครัฐจะทยอยประกาศในอนาคต
ขณะที่บริษัทได้ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอย้ายจากหมวดภาคบริการและท่องเที่ยว มาเป็นหมวดอสังหาริมทรัพย์ โดยอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ ซึ่งบริษัทจะส่งงบไตรมาส 1/59 เข้าไปประกอบการพิจารณาด้วย คาดว่าจะสามารถปรับหมวดได้ภายในปีนี้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางสำนักงาคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลท.ได้สอบถามมายังผู้บริหารถึงพฤติกรรมการปั่นหุ้นนั้น นายประทีป ชี้แจงว่า ผู้บริหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสร้างราคา 3-4 บริษัทจดทะเบียนที่เกิดขึ้นในปี 57 ได้แก่ ACD (ซึ่งเป็นชื่อเก่าของบริษัท) และ AJD เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต.และ ตลท.มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว