EA ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานลม COD กลางปีนี้ ดันกำลังการผลิตแตะ 404MW

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถือหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ยกมือสนับสนุนแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมสองโปรเจ็คใหญ่มูลค่า 3.04 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น “โครงการหาดกังหัน 1-3” กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ มูลค่า 1.04 หมื่นล้านบาท กำหนดเริ่ม COD ในดือน ก.ค.ปีนี้ ดันกำลังการผลิตไฟฟ้าแตะ 404 เมกะวัตต์ในปีนี้

ส่วน “โครงการหนุมาน 1,5,8,9,10 ”กำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ ผู้ถือหุ้นอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท กำหนด COD ภายในเดือนมิ.ย.2561 ทำให้ EA จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์ในปี  2561 

ด้าน นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ได้พิจารณาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมสองโปรเจ็คมูลค่ารวม 30,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น “โครงการหาดกังหัน 1-3” กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์  มูลค่าลงทุนประมาณ 10,400 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายอุปกรณ์นำเข้าประมาณ 171 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณ) และค่าใช้จ่ายในประเทศประมาณ 4,333 ล้านบาท  ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าและรายละเอียดการลงทุน

โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือนกรกฏาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2559 บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 404 เมกะวัตต์  พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณและรายละเอียดการลงทุนของ“โครงการหนุมาน 1,5,8,9,10 ” กำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ มูลค่า 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายอุปกรณ์นำเข้าประมาณ 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณ) และค่าใช้จ่ายในประเทศประมาณ 8,300 ล้านบาท  มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือนมิถุนายน 2561  ซึ่งจะส่งผลให้ EA มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 664 เมกะวัตต์

พร้อมกันนี้ ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระเงินกู้เดิม และใช้ในการดำเนินงานหรือเป็นเงินทุนและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ นอกจากนี้ให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 373 ล้านบาท กำหนดจ่ายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2559  โดยได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2559

“ในปีนี้ EA จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่ม ซึ่ง ณ สิ้นปีนี้จะมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในมือรวมเป็น 404 เมกะวัตต์ และเพิ่มขึ้นเป็น 664 ในปี 2561 โดยจะมาจากโครงการหนุมาน 1,5,8,9,10 ทำให้ผลประกอบการในปี 2559  ยังคงเติบโตตามพัฒนาการของกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี  ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเอาไว้  และนั่นคือปัจจัยหลักที่ทำให้ EA มีผลตอบแทนเติบโต มีกำไรมั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต”นายอมร ทรัพย์ทวีกุล กล่าวในที่สุด