หุ้นยุโรปปิดร่วง ขณะตลาดประเมินผลประกอบการ-ข้อมูลศก.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ รวมทั้งผลประกอบการของหลายบริษัท ซึ่งนักลงทุนรอประเมินข้อมูลต่างๆดังกล่าวก่อนตัดสินใจเข้าเทรด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 7.42 จุด หรือ 2.13% ปิด (29 เม.ย.) ที่ 341.48 จุด สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีลดลง 2% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันสองสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นยุโรปปิดท้ายเดือน ปรับตัวขึ้น 1.2% บวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 128.40 จุด หรือ 2.82% ปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,428.96 จุด, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 282.18 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 10,038.97 จุด และดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 80.51 จุด หรือ 1.27% แตะที่ 6,241.89 จุด
วานนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตทรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 1/2559 ซึ่งดีกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเผยให้เห็นว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงแตะ -0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางยุโรปยังคงเผชิญกับความท้าทายในการผลักดันอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงต่ำกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารที่ 2% อันสะท้อนถึงความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินฝืด ขณะเดียวกัน ยูโรสแตทเปิดเผยในวันศุกร์ด้วยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนปรับตัวลดลงแตะ 10.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับ 10.4% ในเดือนก.พ.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดยังคงอยู่ในช่วงของการประเมินสถานการณ์และผลกระทบจากมติของธนาคารกลางของหลายประเทศ หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินในการประชุม ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าแบงก์ชาติญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งผลของการประชุมทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
โดยในการซื้อขายวันศุกร์ ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร โดยยูโรแข็งค่าขึ้นเกือบ 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้ส่งออกของยุโรป เนื่องจากทำให้สินค้าของยุโรปมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ร่วงลงหนักในการซื้อขายวันสุดท้ายของเดือน และก่อนวันหยุดธนาคารในวันจันทร์ โดยปิดลดลง 6% หลังจากเผยผลประกอบการที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในไตรมาสแรกปีนี้ ด้านหุ้นไอเอจีร่วง 4.7% หลังกลุ่มบริษัทสายการบินเผยว่ากำลังชะลอแผนการเติบโต หลังพิจารณาว่าความต้องการเดินทางซบเซาลง อันเป็นผลมาจากเหตุก่อการร้ายในบรัสเซลส์ นอกจากนี้ บริษัทยังเผยด้วยกว่า ความต้องการสำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งของสายการบินยังอ่อนแรงลงด้วย
หุ้นเรสเตอรองต์ กรุ๊ป ดิ่งหนักกว่า 25% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี และเผยว่าประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินลาออก มีผลทันที, หุ้นซาโนฟี่ร่วง 5.36% หลังบริษัทยาสัญชาติฝรั่งเศสถูกปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์มูลค่ากว่า 9 พันล้านดอลลาร์ จากบริษัทเมดิเวชั่น ขณะที่หุ้นเทเลโฟนิกาลบ 4.3% หลังบริษัทโทรคมนาคมของสเปนเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกลดลงกว่าครึ่ง