PTT ใจบุญ ลุยแก้ปัญหาภัยแล้ง-ลดการใช้น้ำในสำนักงาน

PTT ใจบุญ วางแผนช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง มุ่งลดการใช้น้ำในการผลิตและในสำนักงาน พร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน


นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ในปี 2559 เป็นปีที่ต้องเผชิญกับวิกฤติภัยแล้งที่รุนแรง และต่อเนื่องยาวนานในหลายพื้นที่ กลุ่ม ปตท.ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และได้ตั้งเป้าดำเนินโครงการช่วยเหลือภัยแล้งอย่างจริงจัง

ทั้งนี้บริษัทได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะเร่งด่วน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยโดยทันที เช่น ให้การสนับสนุนโครงการราษฎร์-รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542, โครงการสนับสนุนน้ำแข็งแห้งเพื่อสนับสนุนโครงการฝนหลวง (ปี 2541 – ปัจจุบัน) จำนวน 9,060 ตัน มอบถังบรรจุน้ำแข็งแห้ง 38 ถัง และยังคงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง 200,000 ลิตร แก่กองทัพไทย แก้ปัญหาภัยแล้ง มูลค่า 4.4 ล้านบาท เป็นต้น

2. ระยะกลาง เป็นระยะที่เน้นการบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ การเป็นคณะทำงานโครงการพิเศษ Water Resource Management (ปี 2554 – ปัจจุบัน) ร่วมกับองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) การร่วมโครงการแบ่งน้ำใช้ปันน้ำใจสู้ภัยแล้งร่วมกับสภาหอการค้า ภาคเอกชนในเครือข่าย และสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ลดการใช้น้ำ 30% ภายในเดือนพฤษภาคม 2559

3. ระยะยาว เป็นการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนด้วยการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตและการใช้น้ำในอาคารสำนักงาน และการสร้างองค์ความรู้และการป้องกันภัยแล้งระยะยาวผ่านโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ โครงการการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โดยบริษัทได้บริหารงานด้านการใช้น้ำในภาคการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดผลกระทบต่อวิกฤติภัยแล้งโดยรวมของประเทศ โดยนำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาใช้วางแผนและกำหนดพื้นที่ความเสี่ยงน้ำ (Water Stress Map) อีกทั้งใช้ระบบฐานข้อมูลผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม และประยุกต์ใช้เครื่องมือ Global Water Tool (GWT) ของสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ WBCSD เพื่อเก็บข้อมูลการใช้น้ำของพื้นที่ปฏิบัติการภายใต้การควบคุมของ ปตท.

สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นฐานสำคัญของ ปตท. อีกทั้งจังหวัดชลบุรีและระยอง เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านน้ำสูง โดยหลังเหตุการณ์ขาดแคลนน้ำ ในปี 2548 บริษัทได้ตั้งคณะทำงานบริหารจัดการน้ำเพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์น้ำทุกระยะ รวมถึงผลการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันยังมีส่วนร่วมในคณะทำงานการบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออกของจังหวัดระยอง หรือ Water War Room เพื่อลดความเสี่ยงได้ทันท่วงที โดยคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุปโภค-บริโภค ภาคเกษตรกรรม และภาคการผลิต เพื่อรองรับปริมาณการใช้น้ำในอนาคตให้เพียงพอและยั่งยืน

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีโครงการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน เช่น การบริจาคน้ำดื่มเพื่อการบริโภคจำนวน 200,000 ขวด มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท โครงการร่วมกับมูลนิธิเย็นศิระเพราะพระบริบาล กองทัพภาคที่ 3 ห่วงใยผู้ประสบภัย บริจาคถุงยังชีพและน้ำดื่ม โครงการฟื้นป่ารักษ์น้ำเขาห้วยมะหาด เป็นการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน โครงการมอบถังน้ำ InnoPlus เป็นต้น

Back to top button