ดอลล์แข็งค่าจากแรงซื้อเก็งกำไร

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (3 พ.ค.) ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1514 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1523 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.4542 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4670 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7657 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 106.40 เยน จากระดับ 106.47 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9533 ฟรังก์ จากระดับ 0.9550 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2724 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2529 ดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า รายงานของ ISM ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลงแตะระดับ 50.8 จากระดับ 51.8 ในเดือนมี.ค.

ด้านเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากมาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 49.2 ร่วงลงจากระดับ 50.7 ในเดือนมี.ค. โดยหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวแตะ 51.2

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนในสหรัฐเดือนเม.ย. ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และในวันศุกร์ กระทรวงแรงงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.