น้ำมันดิบปิดร่วง นักลงทุนวิตกภาวะอุปทานล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่าประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงอิหร่านและอิรัก ได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นอีก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิด (3 พ.ค.) ที่ 43.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 44.97 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานคาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเบรนท์จากทะเลเหนืออาจจะพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย.สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ด้านอิรักเปิดเผยว่า การขนส่งน้ำมันจากแหล่งผลิตทางใต้ของประเทศมีระดับเฉลี่ย 3.364 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจาก 3.286 ล้านบาร์เรลในเดือนมี.ค. ขณะที่ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 10.15 ล้านบาร์เรล และคาดว่าปริมาณการผลิตจะกลับสู่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรล/วันในไม่ช้า
นอกจากนี้ อิหร่านกำลังผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น และเพิ่มการส่งออกน้ำมันสู่ระดับเกือบ 2 ล้านบาร์เรล/วัน สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 484,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 33.217 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากอิหร่านและอิรักที่เพิ่มปริมาณการผลิต
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก