น้ำมันดิบปิดร่วงจากข่าวซาอุดิอาระเบียปลดรมว.น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) จากข่าวที่ว่า รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้ปลดนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า วิกฤตไฟป่าที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันจากชั้นทราย (oil sand) ในแคนาดา เริ่มบรรเทาลงแล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิด (9 พ.ค.) ที่ 43.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 43.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลซาอุดิอาระเบียประกาศปลดนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันซึ่งดำรงตำแหน่งมายาวนาน หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ โดยได้แต่งตั้งนายกาลิด อัล-ฟาลีห์ ประธานบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย หรือที่รู้จักกันในนาม ซาอุดิ อารามโก เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันคนใหม่
นายอัล-ไนมี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียมาตั้งแต่ปี 2538 และเป็นผู้ที่คัดค้านการลดปริมาณการผลิตน้ำมันในประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการผลิตน้ำมันแบบเดิม นอกจากนี้ นายอัล-ไนมี ยังเป็นผู้ปรับเปลี่ยนนโยบายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในปี 2557 โดยการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก
นอกเหนือจากข่าวการปลดรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบียแล้ว สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า สถานการณ์ไฟป่าในแคนาดาเริ่มบรรเทาลงแล้ว หลังจากที่กระแสลมได้เบี่ยงเบนทิศทางออกจากแหล่งผลิตน้ำมันจากชั้นทรายในเมืองฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ ทางตะวันตกของแคนาดา
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แหล่งผลิตน้ำมันจากชั้นทรายในเมืองฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไฟป่า โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทพลังงรายใหญ่ รวมถึงซันคอร์ เอนเนอร์จี, เชลล์ และฮัสกี ได้พากันปิดโรงงานผลิตและลดกำลังการผลิต
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย