
จับตา 4 ประเด็นร้อนก่อนเทรดเช้านี้
จับตา 4 ประเด็นร้อนก่อนเทรดเช้านี้
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์(12 พ.ค.) ตลาดหุ้นวานนี้: SET ปรับลงต่อเนื่องจากวานนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มสื่อสารจากแนวโน้มกำไร 2Q16 ที่จะชะลอตัวต่อเนื่องจาก 1Q16 นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 1,002 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่กลับมา Net long TFEX 257 สัญญาเป็นวันแรกในรอบ 5 วัน และยังซื้อพันธบัตร 862 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 วัน
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นวันนี้และ SET น่าจะยัง Sideways หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะนำตลาดจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะเดียวกันแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารน่าจะผ่อนคลายเนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลงสะท้อนคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอไปมากแล้วและทำให้เห็นราคาหุ้นบางธนาคารต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีหลายธนคาร ประกอบกับการคงดอกเบี้ยนโยบายของกนง. น่าจะเป็นผลบวกต่อตลาด ในแง่ของ Fund Flow ต่างชาติที่ยังมีโอกาสไหลเข้า แต่อย่างไรก็ตามน้ำหนักการลงทุนจะยังอยู่ในช่วงการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการ 1Q16 ดีหรือที่ออกมาแล้วดีเกินคาด ดังนั้นหุ้นขนาดกลางและเล็กจะเป็นตัวนำตลาด
– เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น +3.5% อยู่ที่ US$46.23/บาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าคาดและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐก็ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 เชื่อ PTTEP และ PTT น่าจะฟื้นตัวแต่อาจไม่มาก เนื่องจาก upside มีจำกัดและยังไร้ทิศทาง ทั้งนี้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าตามไปด้วยในช่วงระหว่างเทรด อย่างไรก็ดีเรายังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้เพียง Neutral , Top pick TOP (ซื้อ/เป้า 74) นอกจากนี้อาจเข้าเก็งกำไรในหุ้น PTTGC SPRC และ IRPC ที่ปรับลงมาลึกและพร้อมรีบาวด์
– ดาวโจนส์ร่วงเมื่อคืน แต่จะเป็นผลกระทบด้านลบต่อ SET น้อยมาก : ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแรงเมื่อคืนจากความกังวลต่อการบริโภคภายในที่ชะลอตัวหลังผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกมีผลกำไรที่แย่กว่าคาด รวมถึงอัตราการบอกเลิกจ้างงานมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโรและเยน และน่าจะเป็นผลดีต่อบ้านเราเพราะปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
– กนง. คงดอกเบี้ยตามคาด ภาวะการเงินผ่อนคลายเพิ่มขึ้นหลังแบงก์พาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ และ Bond yield ต่ำ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวค่อยเป็นค่อยไปตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ แต่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากปัจจัยในประเทศ (การลงทุนยังอยู่ในระดับต่ำและการบริโภคยังอ่อนแอ) อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยแบงก์กรุงศรีมองว่ากนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้เพราะเชื่อว่า 1) กนง. อาจเลือกรอดูท่าทีเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในอนาคต 2) กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพ ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น และ 3) รัฐประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แบงก์พาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยน่าจะช่วยหนุนการใช้จ่ายภาคเอกเชนเพิ่มขึ้น
-Foreign Fund Flow ยังไหลออกจากภูมิภาค แต่เริ่มไหลเข้าบางประเทศแล้ว : วานนี้ Fund Flow จากต่างชาติยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 แต่ขายเพียง 2 ตลาดคือไต้หวันและไทยโดยขายสุทธิในไต้หวัน US$288 ล้าน และไทย US$28.4 ล้าน ส่วนตลาดอื่นๆต่างชาติเริ่มเข้าซื้อนำโดย เกาหลีใต้ซื้อสุทธิ US$ 73 ล้าน ตามด้วยฟิลิปปินส์ US$40.3 ล้าน และซื้อสุทธิในอินโดฯ US$ 7.8 ล้าน