ดาวโจนส์ปิดขยับลงเล็กน้อย หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) หลังจากเฟดได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ในรายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างผิดคาดในสัปดาห์ที่แล้ว


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (18 พ.ค.) ที่ 17,526.62 จุด ลดลง 3.36 จุด หรือ -0.02%, ดัชนี NASDAQ ปิดรล่าสุดที่ 4,739.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.39 จุด หรือ +0.50% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,047.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.42 จุด หรือ +0.02%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 เม.ย.เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

“กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเป็นตรงกันว่า หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีขึ้นในไตรมาส 2 รวมทั้งตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และเงินเฟ้อเริ่มเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% การปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ในการประชุมเดือนมิ.ย.ก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม” รายงานการประชุมของเฟดระบุ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล

หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยหุ้นวอลมาร์ทร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่หุ้นคอสท์โค โฮลเซล ดิ่งลง 1.6% หุ้นฮอร์เมล ฟู๊ดส์ ร่วงลง 8.6%, หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ โดยหุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลงติดต่อกัน 7 วันทำการ ขณะที่หุ้นเบสท์บาย ดิ่งลง 3.6% และหุ้นเออร์แบน เอาท์ฟิทเทอร์ส ร่วงลง 3.3%

อย่างไรก็ตาม การส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ทะยานขึ้น 3.9% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรบขึ้น 3.8% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 1.1% หลังจากมีรายงานว่านายทิม คุก ผู้บริหารแอปเปิลได้เดินทางเยือนประเทศอินเดีย โดยมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดผลิตภัณฑ์ไอโฟน หุ้นควอลคอมม์ ปรับขึ้น 1.52% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3.9%

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนเม.ย.จากเฟดชิคาโก ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย

Back to top button