PF เดินหน้าลุยเปิด 14 โครงการใหม่ครึ่งปีหลัง มั่นใจรายได้ขายอสังหาฯ ปีนี้ตามเป้า
PF เดินหน้าลุยเปิด 14 โครงการใหม่ครึ่งปีหลัง รวมมูลค่ากว่า 2.06 หมื่นลบ. หวังดันยอดขายโตกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้ขายอสังหาฯ ปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นลบ.
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภลต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร๊อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังอีก 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.06 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.55 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5.1 พันล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังเป็นแบรนด์ไอคอนโด 2 โครงการ บน 2 ทำเล ได้แก่ ย่านไทรม้า และรามคำแหง-เสรีไท แบรนด์คอนโดเมโทร ลักซ์ และแบรนด์เมโทร สกาย
การเปิดตัวโครงการจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ยอดขายของบริษัทในครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรกอย่างมาก โดยยอดขายถึง ณ สิ้นเดือน เม.ย.59 อยู่ที่ราว 3.6 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 1.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายไว้ตามที่ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปี และคาดว่าจะไม่มีการทบทวนปรับลดลง
“เรายังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้ยังเป็นไปได้ตามเป้าแม้ว่าในครึ่งปีแรกเราจะมีการเปิดขายโครงการใหม่เพียงโครงการเดียว คือ โครงการไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะแคมปัส มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท เรามองว่าในครึ่งปีหลังการเปิดโครงการมากขึ้นจะช่วยเป็นแรงผลักดันยอดขายของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แต่โครงการที่เราเปิดในปีนี้สัดส่วนจะกระจายไประดับบนเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 20% เพราะกำลังซื้อระดับบนยังดีอยู่ และเรามาลดสัดส่วนโครงการระดับล่างเหลือ 30% จากเดิม 40% เพราะโครงการระดับล่างราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาท/ยูนิต ยังมีปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งมีอัตราการปฏิเสธอยู่ที่ 20-25%”นายวงศกรณ์ กล่าว
ส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของ PF ปีนี้ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยไตรมาส 1/59 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์แล้ว 3.51 พันล้านบาท และจะมีการโอนโครงการเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับ การเปิดโครงการแนวราบเพิ่มอีก จะทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้เร็ว
อีกทั้ง บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไนปีนี้ทั้งหมด และโครงการคอนโดมิเนียม 4.5 พันล้านบาทจะทยอยรับรู้ปีนี้ 2.7 พันล้านบาท
“แนวโน้มทั้งด้านรายได้และยอดขายในครึ่งปีหลังก็จะมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะว่าเรามีการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังเยอะ และการโอนโครงการก็จะไปกระจุกตัวในไตรมาส 4 เป็นส่วนใหญ่ ส่วนไตรมาส 3 ก็มีอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าไตรมาส 4 ส่วนไตรมาส 2 นี้ยอดขายและรายได้ก็อาจจะทรงตัวจากไตรมาสแรก เพราะเราไม่มีเปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ที่มาตรการรัฐยังมีผลอยู่ เราไม่เน้นการเปิดโครอการใหม่ แต่เราไปเน้นการขายของในสต๊อกและโอนโครงการที่เสร็จ”นายวงศกรณ์ กล่าว
โดยโครงการหอพักนักศึกษา “ยูนิลอฟท์ เชียงใหม่” มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาขายโครงการให้กับผู้สนใจซื้อ คาดว่าจะมีข้อสรุปได้ภายในปีนี้
สำหรับโครงการที่เปิดตัวใหม่คือ “ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส” เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ขนาดพื้นที่โครงการ 9-3-38.5 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพียง 1 กม. ประกอบด้วยห้องพัก จำนวน 880 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 30-36 ตร.ม. ในระดับราคา 1.65-1.80 ล้านบาท ปัจจุบันได้เปิดขายอาคารแรกแล้ว 220 ยูนิต ในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายแล้ว 70% และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายไน 1-2 เดือนข้างหน้า และอาคาร 2 คาดว่าจะเปิดขายในเร็วนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าปิดการขายทั้ง 4 อาคารได้ในช่วงกลางปี 60