ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 145 จุด หลังกรีซบรรลุข้อตกลงเจ้าหนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (25 พ.ค.) ที่ 17,851.51 จุด พุ่งขึ้น 145.46 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,894.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.83 จุด หรือ +0.70% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.54 จุด เพิ่มขึ้น 14.48 จุด หรือ +0.70%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับรายงานที่ว่า รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและ IMF ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ ในการประชุมซึ่งมีขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยเงินกู้งวดใหม่มีมูลค่า 1.03 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะจัดสรรให้กับกรีซล็อตแรก 7.5 พันล้านยูโร ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้
การอนุมัติความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐสภากรีซได้ผ่านมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษี และการตั้งกองทุนแปรรูปเป็นภาคเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของฝ่ายเจ้าหนี้ ทั้งนี้ กรีซกำลังต้องการเงินกู้งวดใหม่เพื่อนำไปชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านยูโรต่อธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศในเดือนมิ.ย. และก.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นทรานส์โอเชียนพุ่งขึ้น 9.7% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 6.8%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้น โดยหุ้นมอนซานโตพุ่งขึ้น 2.2% หลังจากไบเออร์ยังคงแสดงความมุ่งมั่นที่จะยื่นข้อเสนอซื้อกิจการมอนซานโตรอบใหม่ หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 4.9% และหุ้นลีอองเดลล์บาเซลล์ อินดัสทรีส์ พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ป หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นไฟแนนเชียล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2%
หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1% หลังจากบริษัทประกาศแผนปลดพนักงานจำนวน 1,850 คนจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาจากบริษัทโนเกีย เนื่องจากยอดขายยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์จะปลดพนักงาน 1,350 คนในฟินแลนด์ นอกจากนี้ บริษัทจะตัดมูลค่าทางบัญชีจำนวน 950 ล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับการปลดพนักงานในครั้งนี้
ตลาดจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย รวมทั้งการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.