น้ำมันดิบปิดลบจากแรงเทขายทำกำไร

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิด (26 พ.ค.) ที่ 49.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ปรับตัวที่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 537.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล

แต่ในเวลาต่อมา สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลงจนกระทั่งปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของสต็อกน้ำมันดิบ

นักลงทุนจับตาดูท่าทีของอิหร่านอย่างใกล้ชิด หลังจากอิหร่านวางแผนที่จะผลักดันการส่งออกน้ำมันให้ได้ถึง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในช่วงฤดูร้อนนี้ จากปัจจุบันที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันที่ 2 มิ.ย. เพื่อหาสัญญาณการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อผลักดันราคาให้ดีดตัวขึ้น