ราคาทองคำปิดลบ เหตุดอลล์แข็งค่าหลังประธานเฟดหนุนขึ้นดบ.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) โดยสัญญาทองคำทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 8 วันทำการ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิด (27 พ.ค.) ที่ 1,216.70 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 7.40 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 16.269 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 982.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปรับลง 4.65 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 539 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าจะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาสูงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อคืนนี้ มาจากการที่นางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%