ดอลล์แข็งค่ารับ “เยลเลน” หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมุมมองดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (27 พ.ค.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.43 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 109.70 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9944 ฟรังก์ จากระดับ 0.9893 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1114 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.1190 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4608 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4656 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7218 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น
นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%
นักวิเคราะห์มองว่า การแสดงความคิดเห็นของนางเยลเลนมีนัยสำคัญอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยบที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตได้ ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรก อยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 0.5%
*ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day