ดาวโจนส์ปิดลบ 86 จุด ตลาดวิตกเฟดขึ้นดบ.หลังข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืน ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีนั้น อาจจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (31 พ.ค.) ที่ 17,787.20 จุด ลดลง 86.02 จุด หรือ -0.48% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,948.06 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.96 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.10%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐที่พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2009 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%

ด้านดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐซึ่งสำรวจโดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2% และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดนั้น ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากท่าทีล่าสุดของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมัน WTI ที่ลดลง 0.5% เมื่อคืนนี้ ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

หุ้นดีสนีย์ ร่วงลง 1.1% หลังจากภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Alice Through the Looking Glass” ได้รับการตอบรับที่น้อยกว่าคาด หุ้นเวสต์สตาร์ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเกรท เพลนส์ เอนเนอร์จี ตกลงเข้าซื้อกิจการเวสต์สตาร์ เอนเนอร์จี มูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์ แต่ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเกรท เพลนส์ เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.9%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนเม.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ ซึ่งหากตัวเลขจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะหนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนหน้า

Back to top button