หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดวิตกภาคการผลิตจีนชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยมีรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิด (1 มิ.ย.) ที่ 344.12 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,475.39 จุด ลดลง 30.23 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,204.44 จุด ลดลง 58.30 จุด หรือ -0.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,191.93 จุด ลดลง 38.86 จุด หรือ -0.62%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากมาร์กิตและไฉซินเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนปรับตัวลดลงแตะ 49.2 ในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 49.4
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของจีนอยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากการผลิตชะลอตัวลง ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคการผลิตของจีนปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้
ขณะที่สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจาก PMI ภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 1.3% หุ้นโบลิเดน เอสอี ดิ่งลง 2% และหุ้นอาร์เซลอร์ มิททัล ร่วงลง 2.8% หุ้นเทเลนอร์ พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทเลนอร์ขึ้นสู่ระดับ overweight จากระดับ equal
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ เวลา 18.45 น.ตามเวลาไทย หลังจากที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา