น้ำมันดิบปิดบวกหลังสต็อกสหรัฐฯร่วง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) โดยน้ำมันปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากข่าวที่ว่าที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมปริมาณน้ำมันในตลาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิด (2 มิ.ย.) ที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 50.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 535.7 ล้านบาร์เรล ทำสถิติลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ สต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดงอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากที่ราคาร่วงลงเกือบ 2% ในระหว่างวัน ภายหลังจากมีรายงานว่า การประชุมโอเปกซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนั้น ที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมราคาและปริมาณน้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ แถลงการณ์หลังการประชุมโอเปกระบุแต่เพียงว่า ประเทศสมาชิกโอเปกจะใช้ความพยายามต่อไปเพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ โดยไม่ได้ระบุถึงคำมั่นสัญญาที่เป็นรูปธรรม รวมถึงไม่มีการกล่าวถึงการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมัน
สำหรับการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกเมื่อวานนั้น สมาชิกโอเปกจากอ่าวอาหรับ ซึ่งรวมถึงซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีแนวความคิดที่จะให้สมาชิกร่วมมือกันควบคุมการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดี อิหร่านได้แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดที่จะมีการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมัน เหมือนกับที่เคยคัดค้านในการประชุมหลายครั้งก่อนหน้านี้