น้ำมันดิบปิดพุ่งจากข่าวโจมตีท่อน้ำมันไนจีเรีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า เหตุการณ์โจมตีท่อส่งน้ำมันในประเทศไนจีเรียส่งผลให้การผลิตน้ำมันภายในประเทศปรับตัวลดลง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิด (6 มิ.ย.) ที่ 49.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 50.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นหลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันในประเทศไนจีเรียลดลงราว 170,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีท่อน้ำมันในประเทศ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นางเยลเลนได้การกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม “World Affairs Council of Philadelphia” เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ก็ตาม พร้อมกับกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ไม่ได้มีการระบุถึงกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นหลังจากบริษัทเอ็กซอน โมบิลเปิดเผยว่า ท่อน้ำมันของบริษัทได้รับความเสียหายที่โรงกลั่นใกล้เมืองลอส แองเจลิส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

Back to top button