JWD จับมือพันธมิตรกัมพูชาบริหารศูนย์โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ หวังเป็นผู้นำในอาเซียน

JWD จับมือ PPSP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านนิคมอุตสาหกรรมในกัมพูชา ร่วมบริหาร “ศูนย์โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์" ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 25% ในปี 63 จากปัจจุบัน 8% หวังเป็นผู้นำธุรกิจบริการโลจิสติกส์ในอาเซียน


นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า บริษัทเข้าไปถือหุ้นในบริษัทพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจด้านนิคมอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชา โดยเข้าไปซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 5.2% ของบริษัท Phnom Penh SEZ Plc. หรือ PPSP ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการกัมพูชาและญี่ปุ่นที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกัมพูชา โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้พัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในกัมพูชา

โดยปัจจุบัน PPSP พัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวแล้ว 2 เฟส โดยมีผู้ประกอบการเข้าเช่าพื้นที่แล้วประมาณ 75% ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมพัฒนาโครงการในเฟสที่ 3 ให้เป็น “ศูนย์โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์” เชื่อมต่อระบบขนส่งทางรถไฟเข้าสู่ท่าเรือสีหนุวิลล์ เพื่อรองรับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกที่มีความต้องการใช้บริการศูนย์โลจิสติกส์ที่ได้มาตรฐานสากล

ทั้งนี้ PPSP ได้เปิดโอกาสให้ JWD ในฐานะพาร์ทเนอร์เป็นผู้ร่วมบริหารโครงการศูนย์โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ซึ่งบริษัทพร้อมใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจรมากว่า 35 ปี พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีระบบซอฟท์แวร์เข้าไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น

“เราสนใจการพัฒนาโครงการศูนย์โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้กับเส้นทางรถไฟที่วิ่งเชื่อมต่อไปถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ซึ่งถูกใช้เป็นจุดขนถ่ายสินค้าเพื่อการส่งออก จึงเป็นทำเลที่เหมาะแก่การลงทุนพัฒนาโครงการและในอนาคตบริษัทมีความต้องการต่อยอดขยายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ทางรถไฟอีกด้วย” นายชวนินทร์ กล่าว

สำหรับในอนาคต บริษัทยังให้ความสนใจร่วมกับ PPSP เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ในตำบลปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพื้นที่ติดพรมแดนไทย-กัมพูชา อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อรองรับอุตสาหกรรมภายในประเทศกัมพูชาที่มีอัตราการขยายตัวที่ดี ส่งผลให้มีผู้ประกอบการท้องถิ่นและต่างประเทศสนใจลงทุนขยายฐานการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การขยายการลงทุนในกัมพูชาจะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ในต่างประเทศของ JWD เติบโตเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ จากปัจจุบันประมาณ 8% เป็น 25% ภายในปี 63 และก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต

Back to top button