น้ำมันดิบปิดบวกหลังสต็อกสหรัฐฯร่วง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกันระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงเช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.7% ปิด (8 มิ.ย.) ที่ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 52.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปานล้นตลาด โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน EIA ยังเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 8,745,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 8,735,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า การผลิตน้ำมันในไนจีเรียลดลงราว 170,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีท่อน้ำมันในประเทศ Eni บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของอิตาลีเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของบริษัทลดลง 65,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่อส่งน้ำมันในจังหวัดบาเยลซา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไนจีเรีย ถูกโจมตีจนได้รับความเสียหาย