หุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังร่วงต่อเนื่อง 5 วันติด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยตลาดดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 1% ปิด (15 มิ.ย.) ที่ 323.63 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,171.58 จุด เพิ่มขึ้น 41.25 จุด หรือ +1.00%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,606.71 จุด เพิ่มขึ้น 87.51 จุด หรือ +0.92% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,966.80 จุด เพิ่มขึ้น 43.27 จุด หรือ +0.73%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดดิ่งลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูผลการประชุมเฟดประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งโดยปกติแล้วคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นดอยช์แบงก์ พุ่งขึ้น 1% หุ้นธนาคารบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสพานอล ทะยานขึ้น 5.7% และหุ้นธนาคารเมดิโอบังคา ปรับขึ้น 2.8% อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ชาวอังกฤษอาจจะลงประชามติสนับสนุนการแยกตัวออกจากสภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
รายงานระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางในยุโรป เพื่อรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น หากสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า หากสหราชอาณาจักรตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อค่าเงินปอนด์ซึ่งจะทำให้ทรุดตัวลง และจะกระทบอย่างหนักต่อตลาดการเงิน และตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อยุโรปที่ต้องสูญเสียสหราชอาณาจักรที่มีมูลค่าเศรษฐกิจสูงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์