ดาวโจนส์ปิดบวกรับ “เยลเลน” มั่นใจศก.สหรัฐฯไม่ถดถอยจากกรณี Brexit

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (21 มิ.ย.) ที่ 17,829.73 จุด เพิ่มขึ้น 24.86 จุด หรือ +0.14%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,843.76 จุด เพิ่มขึ้น 6.55 จุด หรือ +0.14% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.65 จุด หรือ +0.27%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนได้เข้าแถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่าอังกฤษถอนตัวจาก EU ส่วนในประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น นางเยลเลนแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นางเยลเลนยังได้ระบุถึงการชะลอตัวของการจ้างงานในเดือนเม.ย.และพ.ค. และระบุว่าเฟดจะจับตาอย่างระมัดระวังเพื่อพิจารณาว่าภาวะชะลอตัวดังกล่าวเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว หรือเป็นสัญญาณบ่งชี้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากผลการสำรวจล่าสุดของ Survation เมื่อวานนี้ระบุว่า กลุ่มที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงรวมตัวกับ EU มีจำนวน 45% ขณะที่กลุ่มที่ต้องการแยกตัวมีจำนวน 44%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 2.2% หุ้นแอปเปิลขยับขึ้น 0.9% หุ้น Adobe Systems ปรับขึ้น 1.8% หุ้นไซแมนเทค พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส และหุ้นอลาสก้า แอร์ไลนส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้น 1.5%

นักลงทุนจับตาดูการรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.  นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งจะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้