หุ้นยุโรปปิดบวกรับข้อมูลภาคการผลิตสดใส
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตของยุโรป หลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้านั้น อันเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit)
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิด (1 ก.ค.) ที่ 332.24 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย., ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,273.96 จุด เพิ่มขึ้น 36.48 จุด หรือ +0.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,776.12 จุด เพิ่มขึ้น 96.03 จุด หรือ +0.99% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,577.83 จุด เพิ่มขึ้น 73.50 จุด หรือ +1.13%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 52.8 ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับรายงานเบื้องต้นที่ 52.6 และตัวเลขเดือนพ.ค.ที่ 51.5 ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่หากดัชนีต่ำกว่า 50 จะแสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว มาร์กิตระบุว่า สมาชิกยูโรโซนทั้งหมดยกเว้นฝรั่งเศสได้ส่งสัญญาณขยายตัว โดยยอดการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติดีที่สุดในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากจากกระแสข่าวที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษมีแผนที่จะปรับลดสัดส่วนเงินทุนสำรองของธนาคารลงในสัปดาห์หน้า ข่าวดังกล่าวหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และหุ้นยูบีเอส กรุ๊ป เอสจี ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 2% หุ้นเทเมนอส กรุ๊ป เอจี ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ของสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 3.1% หลังระบุว่า ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด จะใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทในกว่า 30 ตลาด