DIMET มั่นใจงวดปี 58/59 พลิกเป็นกำไร-เล็งธุรกิจพลังงานทดแทน

DIMET มั่นใจงวดปี 58/59 พลิกเป็นกำไร ชูเป้ารายได้ 1 พันลบ.ภายใน 3 ปี-เล็งธุรกิจพลังงานทดแทน


นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการงวดปี 58/59 จะเริ่มมีกำไรอย่างแน่นอน โดยเริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3 ของงวดปีนี้ เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นแผนการขาย แผนการตลาด และการบริหารจัดการต้นทุน รวมทั้งได้เพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น ประกอบกับออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น

“ก่อนที่เราจะเข้ามาบริหารจะเห็นได้ว่ามีผลขาดทุนมาหลายปี แต่เราก็ได้เข้ามาปรับโครงสร้างใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแยกระหว่าง ระหว่างต้นทุนสินค้ากับต้นทุนการให้บริการ เพื่อที่จะหาว่าต้นทุนตัวใหนที่ส่งผลให้ผลประกอบการ ในขณะเดียวกันเราก็จะทำการตลาดเพิ่มเติมด้วย จากที่ทีมเดิมไม่ได้มีการทำการตลาดเลย

นอกจากนี้ทีมเรายังมีคอนเนคชั่นอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตัวผมเองก็เป็นกรรมการใน BLAND และพึ่งจะได้อนุมัติโครงการใหม่ไปกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เรามองว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ เราจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ตลาด โดยในตลาดของสีทั้งหมดในประเทศมีมูลค่าถึง 46,000 ล้านบาท ซึ่งเรามียอดขายเพียง 300 กว่าล้านบาท จึงยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก”นายปัญญา กล่าว

สำหรับแผนการเพิ่มยอดขายของบริษัท เบื้องต้นตั้งเป้าจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ (Distributor) อย่างน้อย 9 ราย เพื่อให้ดูแลตัวแทนจำหน่ายรายเล็กๆ ได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า 1 Distributor จะสามารถสร้างตัวแทนจำหน่ายรายย่อยเพิ่มได้อีก 5 ราย จะส่งผลให้บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายเพียงพอในการเข้าบุกตลาดใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการทำตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD , บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และ กลุ่มสี่แสงการโยธา เป็นต้น

รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ อย่าง บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA , บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะเข้าไปทำการตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น TOYOTA ,NISSAN ,BMW รวมไปถึง Tesla Motors ที่เริ่มทำการตลาดเข้ามาในประเทศไทย และคาดว่าจะเข้ามาตั้งสายการผลิตด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีชื่อเสียงในกลุ่มสีกันสนิม

“นอกเหนือจากการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายแล้ว เราก็ยังมีการขยายกลุ่มลูกค้าด้วย ซึ่งขยายไปมากขึ้นโดยเฉพาะใรกลุ่มที่ใช่สีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มยานยนต์ และโรงงาน”นายปัญญา กล่าว

นายปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้เริ่มขยายไปยังตลาดต่างประเทศแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชา และฟิลิปปินส์ โดยจะมีการเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในเร็วๆนี้ ในขณะเดียวกันได้มีการเจรจาเพื่อที่จะหาตัวแทนจะหน่ายในประเทศอื่นๆเพิ่มเติมด้วย โดยคาดว่าจะมีตัวแทนจำหน่ายครบทั้ง 10 ประเทศของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ภายในปี 59 นี้ และคาดว่าในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 30-40% และในประเทศ 60%

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการงวดปี 62/63 จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ทั้งหมดราว 5 แสนลิตร/เดือน แต่ขณะนี้ใช้กำลังการผลิตเพียง 1 แสนลิตร/เดือน ซึ่งหากบริษัทสามารถทำผลประกอบการได้ตามแผนที่วางไว้และออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิมเติมอีกอาจจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิต

“เราตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ขึ้นไปแตะ 1,000 ล้านบาทภายในอีก 3 ปี ข้างหน้า แต่อาจจะเร็วกว่านั้น ซึ่งเราคงจะตอบได้ชัดเจนกว่านี้ในช่วงก่อนที่จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน ต.ค. ซึ่งเราก็อาจจะมีการเพิ่มการผลิตอีก เพราะเราจะไม่เพียงขายสินค้าเดิมๆ ที่มีอยู่ ซึ่งเราเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายตัว และการเข้ามาของทีมผู้บริหารใหม่นี้เชื่อได้ว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เพราะเราเคยทำให้ BLAND จากที่มีผลขาดทุนกว่า 5 หมื่นล้านกลับมาเป็นบวกได้มาแล้ว”นายปัญญา กล่าว

อนึ่ง นายปัญญา เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการ DIMET ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.59 หลังจากนายสุรพล รุจิกาญจนา ได้ลาออกจากประธานกรรมการ ขณะที่นายประกาศ จันทเพ็ชร์ เข้ามาเป็นกรรมการบริษัท ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.59 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหลังจาก บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ EWC เข้าซื้อกิจการ

นายปัญญา กล่าวถึงการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานทดแทน เนื่องจากให้ผลตอบแผนที่ดี และมีความต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับภาครัฐฯ ว่าจะมีการประกาศให้ขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ได้เมื่อใด

“ธุรกิจไฟฟ้าก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่เราอยู่ระหว่างศึกษาและติดตามภาครัฐอย่างต่อเนื่องว่าจะมีใบ PPA ออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนดีและต่อเนื่อง นอกจากนี้เองเราก็ยังมองหาธุรกิจอื่นๆอย่างต่อเนื่อง และจะค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น”นายปัญญา กล่าว

Back to top button