หุ้นยุโรปปิดลบจากแรงขายหุ้นแบงก์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นของธนาคารอิตาลี ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิด (4 ก.ค.) ที่ 329.78 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,234.86 จุด ลดลง 39.10 จุด หรือ -0.91%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,709.09 จุด ลดลง 67.03 จุด หรือ -0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,522.26 จุด ลดลง 55.57 จุด หรือ -0.84%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นธนาคารของอิตาลี โดยหุ้น Banca Monte dei Paschi di Siena SpA ดิ่งลงอย่างหนักถึง 14% หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีคำมั่นให้ธนาคารแห่งนี้ดำเนินการร่างแผนเพื่อรับมือกับปัญหาหนี้เสีย ขณะที่หุ้นธนาคาร Banca Popolare dell’Emilia Romagna BPE ดิ่งลง 6.7% หุ้น Intesa Sanpaolo SpA ร่วงลง 3% และหุ้น Banca Popolare di Milano SpA ปรับตัวลง 1.4%

หุ้นโฟลค์สวาเกน ร่วงลง 2.8% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ซื้อรถยนต์ดีเซลในยุโรป อย่างไรก็ตาม ในตลาดสหรัฐนั้น โฟล์คสวาเกนได้ยอมชดเชยคิดเป็นเงินมูลค่ารวม 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในคดีที่ได้โกงการตรวจสอบมลพิษในไอเสียของรถยนต์ดีเซล ตามคำสั่งศาลรัฐบาลกลางสหรัฐในนครซาน ฟรานซิสโก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า การที่อังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษหายไปราว 1.5%-4.5% ภายในปี 2019 ด้าน S&P Global Ratings เตือนว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนจะได้รับผลกระทบในปี 2017-2018 จากการที่อังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

Back to top button