MTLS ยันไม่กระทบ พ.ร.บ. ทวงหนี้ใหม่-ฟุ้งสินเชื่อ Q2 โตต่อเนื่อง

MTLS ยันไม่กระทบ พ.ร.บ. ทวงหนี้ใหม่-ฟุ้งสินเชื่อ Q2 โตต่อเนื่อง


นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 2/59 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเปิดเทอม และช่วงฤดูเพาะปลูก ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50 % หรือเป็นเงิน 30,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

“ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาลูกค้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นช่วงๆ เช่น เปิดเทอม เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน ดังนั้น ผู้ปกครองต้องเตรียมค่าใช้จ่ายบางส่วนไว้รองรับ หรือเดือนมิถุนายนเริ่มต้นฤดูเพราะปลูก ลูกค้ากลุ่มเกษตรกรต่างเตรียมเงินเพื่อไถ-หว่าน ในต้นฤดูกาลซึ่งก็จะมากู้เงินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าในไตรมาส 2 ยอดปล่อยสินเชื่อต้องเพิ่มมากกว่าไตรมาสแรกอย่างแน่นอน”นายชูชาติกล่าว

สำหรับสินเชื่อนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ บริษัท ยังคงดำเนินการปล่อยให้ลูกค้า เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของลูกค้าที่มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัท ได้ตั้งเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อนาโน-ไฟแนนซ์ไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือคิดเป้ายอดปล่อยประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งไตรมาส 1/59 ปล่อยไปได้แล้วประมาณ 110 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/59 คาดว่ายอดปล่อยจะสูงกว่าไตรมาส 1/59 เนื่องจากลูกค้าให้ความสนใจ และหันมาใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลจาก MTLS มากกว่าที่อื่น เป็นเพราะทางบริษัทไม่ได้คิดดอกเบี้ยเต็มเพดานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ไว้ โดยคิดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 26% จากที่ ธปท.ให้คิดดอกเบี้ยได้สูงถึง 28% ส่วนสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ก็เช่นเดียวกัน คิดอยู่ที่ 29.50% จากที่ ธปท.กำหนดอัตราสูงสุด 36%

 “เหตุที่ MTLS คิดดอกเบี้ยลูกค้ากลุ่มนี้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่แบงก์ชาติกำหนดก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในต้นทุนที่ไม่เอาเปรียบลูกค้า ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกค้ากลุ่มนี้ของ MTLS มีเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด ในขณะที่หนี้เสีย หรือNPL ในกลุ่มนี้ ต่ำมากไม่ถึง 1%”นายชูชาติ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 59 MTLS เตรียมแหล่งเงินกู้ทั้งระยะสั้น และระยะยาวไว้ในวงเงิน 10,000 ล้านบาทเพื่อใช้สำหรับสำรองปล่อยสินเชื่อในปีนี้ ซึ่งมีสถาบันการเงินให้ความสนใจ และนำเสนอประเภทของวงเงิน ทั้งตั๋วแลกเงิน, ตั๋วสัญญาใช้เงิน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ในช่วงระดับต่ำกว่า 3.5% ตามประเภทของวงเงิน และระยะเวลา โดยเงินกู้ทั้งหมดจะนำไปลงทุนในธุรกิจปล่อยสินเชื่อ 4 ประเภท ที่ MTLS ดำเนินการอยู่ในขณะนี้เท่านั้น โดยไม่มีการหันเหธุรกิจออกไปจับธุรกิจตัวอื่นที่ไม่ชำนาญอย่างเด็ดขาด

สำหรับเงินกู้ดังกล่าวบริษัท ยังสามารถหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติมได้อีก เพราะอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/ERatio ของบริษัท อยู่ที่ 2 เท่า ซึ่งแสดงว่าบริษัท ยังสามารถกู้เงินเพื่อนำมาปล่อยได้อีกมาก

 “ที่เรามี D/E Ratio ต่ำ เพราะเรามีทุนจดทะเบียน 2,120 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าธุรกิจเดียวกันในตลาด ดังนั้นเราจึงไม่ห่วงเรื่องการหาแหล่งเงินทุน อีกทั้งทุนจดทะเบียน และกำไรสะสมที่สูง แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานของ MTLSที่มั่นคงที่นักลงทุนสามารถให้ความเชื่อมั่นได้” นายชูชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อยู่ระหว่างการปรับปรุงสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เกี่ยวกับพ.ร.บ.ดอกเบี้ยปรับตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ฉบับใหม่ ห้ามคิดดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปีว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ MTLS

เนื่องจากไม่ได้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หรือสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และที่สำคัญการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัท ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระประชาชนในระดับล่างให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน สนองนโยบายของรัฐบาล

 

Back to top button