ราคาทองปิดลบ ตลาดหุ้นพุ่งกดดันนักลงทุนเทขาย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิด (11 ก.ค.) ที่ระดับ 1,356.60 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 20.50 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 20.304 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,108.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.65 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 625.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นทะยานขึ้นนั้น มาจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่ง จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. โดยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (FED), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน