มนต์เรียก…แมงเม่าแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

สำหรับตลาดหุ้นแล้ว ข่าวร้าย อาจจะหมายถึงข่าวดี ..แม้ว่าข้อสรุปนี้ จะไม่จริงเสมอไป แต่ก็อยู่ในดีเอ็นเอ ของบรรดาแมงเม่าในตลาดหุ้นไทยได้ยาวนาน ไม่เคยจางหายไป

หลายวันมานี้ ราคาหุ้นน้ำหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่ม พากันวิ่งหาจุดสูงสุดรอบใหม่ บางรายสำเร็จ บางรายไปได้ครึ่งทาง แต่บางราย พุ่งเป็นจรวด

แต่ไม่ว่าจะบวกแรงหรือธรรมดา ก็แน่นอนว่า มูลค่าซื้อขายหุ้นเหล่านี้ คึกคักมากเป็นพิเศษ..เสมือนกับว่านักลงทุนระดับแมงเม่าที่กระโดดเข้าใส่หุ้นกลุ่มนี้ เกิดการกินยาผิดซอง หรือไม่ก็เข้าใจไขว้เขวว่า ไวอากร้า เป็นยาแก้โรคนอนไม่หลับ

สาเหตุหลักมาจากข่าวคราวที่อึมครึมมาหลายวัน มาถึงจุดยุติที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องแนวคิดออกมาตรการเก็บเพิ่มภาษีน้ำหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมน้ำตาลเกินกว่าที่บรรดาหมอทั้งหลายที่กำลังทรงอิทธิพลในสังคม ออกโรงเคลื่อนไหว ระบุว่า เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ข้อเสนอเรื่องการจัดเก็บภาษีน้ำหวานเพิ่มไม่ใช่เรื่องเพิ่งจะเกิด แต่มีการผลักดันมานานนับปีแล้ว ก่อนที่จะมีการทำรายงานโดย กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.)  นำโดย พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนมาตรการที่จำเป็นต่อภาวะที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ  ที่เป็นหัวหอกรณรงค์ว่า เครื่องดื่มในท้องตลาดเกือบทั้งหมด มีระดับส่วนผสมเป็นน้ำตาลมากกว่า 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานโลก

ผลพวงของการบริโภค “หวานเกิน” ดังกล่าว ทำให้ความเสี่ยงของคนไทยต่อ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และ โรคหัวใจ สูงกว่าระดับปกติไปด้วย

เจตนาดี…ที่เป็นนมากกว่าเพลง “…บอกซิเออ เธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าใด..” จึงถูกขับเคลื่อนกลายมาเป็นความพยายามสร้างกฎหมายบังคับ..ตามประสาคนดีที่ชอบชี้นิ้วให้คนอื่นทำตาม….ในนามของความปรารถนาดี…..ที่ต้องยัดเยียด

ข้อเสนอดังกล่าว อ้างเหตุว่า ข้อดีของการจัดเก็บภาษีแบบจำแนก มี 2 ประการหลักคือ 1) ลดภาระให้ประเทศเสียค่าใช้จ่ายจากโรคเหล่านี้จำนวนมาก เพราะคนไทยบริโภคน้ำตาล 100 กรัม/คน/วัน ถือว่าเกินมาตรฐานสุขภาพที่กำหนดให้ไม่เกิน 50 กรัมต่อคนต่อวัน ถือเป็นอันดับ 9 ของโลก มากเกินความจำเป็น 2) ช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศจากภาษีได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

การผลักดันเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เข้าสู่ที่ประชุม สปท. มีการลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 153 ต่อ 2 งดออกเสียง 6 …ท่วมท้น

จากนั้นก็ส่งเรื่องให้  ครม. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ มาลงเอยที่กระทรวงการคลัง

ข้อเสนอระบุว่า ให้มีการแก้ไขกฎหมายสรรพสามิต จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีความหวานของน้ำตาล อาทิ น้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้ โดยการแบ่งประเภทดังนี้

–        เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่า 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เก็บภาษีแบบเดิมไปตามปกติ

–        เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 20% ของราคาขายปลีก

–        เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 25% ของราคาขายปลีก

–        สร้างภาระให้ประเทศเสียค่าใช้จ่ายจากโรคเหล่านี้จำนวนมาก เพราะเครื่องดื่มในท้องตลาดเกือบทั้งหมด มีน้ำตาลมากกว่า 6 กรัมต่อมิลลิลิตร อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

–        ปัจจุบันคนไทยบริโภคน้ำตาล 100 กรัม/คน/วัน ถือว่าเกินมาตรฐานสุขภาพที่กำหนดให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 50 กรัมต่อคนต่อวัน ถือเป็นอันดับ 9 ของโลกที่บริโภคน้ำตาลสูงสุด เป็นการบริโภคมากเกินความจำเป็น

เมื่อปลัดคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ เอ่ยปากรับลูกว่า จะเรียกกรมสรรพสามิต และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาหารือ เท่านั้นแหละ…ราคาหุ้นของน้ำหวานทั้งหลายก็ถึงกับ “ซึมยาว” และ “ไปไม่เป็น” กันยาวนานเลยทีเดียว โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานน้ำตาลซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง พากันเต้นเร่าๆ เพราะเสียหายแน่นอนในฐานะจำเลยคนที่สอง…ประเภท เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ

ที่สำคัญ..หมอทั้งหลายอาจจะหลงลืมไปว่า ในโลกของความเป็นจริงนั้น กลุ่มผู้ผลิตน้ำหวานและน้ำตาลทั้งหลาย ล้วนเป็น “สปอนเซอร์หลัก” ของ คสช.ชุดนี้เข้ากระดูกดำ…อิ อิ อิ

ท้ายสุด มติของ ที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย…คณะกรรมาธิการด้านการเก็บภาษีของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผู้แทนจาก ครม. และผู้แทนจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)  ก็มีมติร่วมกัน…ชะลอการเก็บภาษีน้ำหวานออกไปไม่มีกำหนด …เป็นไปตามคาด ไม่เหมือนกับทายผลบอลยูโร

นอกจากจะเลื่อนแล้ว ยังมีมติเพิ่มเติมอีกว่า “…ให้ใช้กฎหมายของหน่วยงานที่มีอยู่ในปัจจุบันควบคุมปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มไปก่อน…”  ตรงล็อกพอดิบพอดี

ราคาหุ้นเครื่องดื่มในตลาดที่ทราบข่าว พากันขานรับอย่างอึงคะนึงต่อเนื่องหลายวัน ทั้งราคาและปริมาณซื้อขาย

โดยเฉพาะ TIPCO MALEE CBG ICHI OISHI SAPPE TACC

หลายหุ้น ราคาทำนิวไฮในรอบหลายเดือน หลายหุ้น นิวไฮในรอบเกือบขวบปี กันเลยทีเดียว…ไม่ต้องออกแรงดันให้เมื่อยตุ้ม เพราะงานนี้ แมงเม่า ลงมือเอง ไม่ต้องรอเจ้าภาพให้เสียเวลา

เริงร่ากันทั่วหน้า…ไม่ต้องร้องเพลง…ของ มะลิลา บราซิลเลียน  ซ้ำอีกครั้ง….

เท่ไปอีกแบบ