แบงก์แรงเว่อร์?โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนยังไม่มีอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกฮึกเหิมก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วกระมัง เพราะข่าวสารทุกอย่างได้เผยแพร่ไปสู่สาธารณชนหมดทุกเรื่องแล้ว ที่เหลือก็มีแต่ว่า ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อข่าวจริงจะเป็นอย่างไร? ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ นะจะบอกให้

*เนื่องจากอาการที่ดัชนีอ่อนตัวลงในแดนลบ ต่อจากนั้นเด้งขึ้นพรวดพราด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,524.58  จุด บวกไป 9.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.68 หมื่นล้านบาท มันเป็นอาการที่บอกให้รู้ว่า ฝรั่งหัวทองยังพยายามดันหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ แมงเม่าเลยต้องเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง  “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับแยกประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้นให้เป็นเรื่องๆ เพื่อความชัดเจนในการลงทุนเจ้าค่ะ

*เหมือนกับปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกันอยู่ในเวลานี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันอยู่เต็มอก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ย่อมกระทบกับการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นธรรมดา แต่ในจังหวะดังกล่าวก็เป็นโอกาสทองสำหรับคนที่มีเงินเย็น เพราะสามารถซื้อหุ้นพื้นฐานดีเก็บไว้ในพอร์ตได้สบายๆ (ตามคำนำของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ให้ซื้อหุ้นทิ้งไว้ถึงปลายปี 59) ไงล่ะจ๊ะ

*โดยหุ้นตัวแรกที่ “โมนิก้า” ค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษในยามนี้คือ KBANK หากดูตามผลงานที่ทำได้ในปีนี้ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองถึงมูลค่าหุ้นกับระดับเหมาะสม นี่คือจุดทยอยขายหุ้นที่สำคัญจุดหนึ่ง เพราะราคาเป้าหมายให้ไว้แค่ระดับ 200 บาทต้นๆ เทียบกับราคาหุ้นในกระดาน 195 บาท บวกไป 11 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าเสียวไส้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCB กระชากขึ้นมาปิดที่159.50 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่มาด้วยเรื่องความเชื่อ บวกกับได้แรงหนุนจากฝรั่งหัวทองเข้ามาช่วยดันหุ้น หุ้นถึงทะยานขึ้นอย่างกับจรวด นี่เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เหมาะสำหรับพวกใจถึง ส่วนพวกเราๆ ท่านๆ หลบข้างทางดีกว่านะคะ

*สำหรับคนที่ชอบมองอะไรสั้นๆ มีการสลับหน้าฉากให้เห็นตลอดเวลา “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูหุ้นแบงก์ตราดอกบัว BBL เป็นรายถัดมาแล้วกัน แถมการเคาะแต่ละไม้เริ่มดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรเป็นกิมมิคในการดันราคา แต่หุ้นกลับกระชากขึ้นมาปิดที่ 170.50 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 2.60 พันล้านบาทแบบนี้ บอกได้แค่ว่า เข้าก่อน…ออกก่อน…ได้เปรียบ นะจ๊ะ

*เรื่องนี้ถูกตอกย้ำด้วยกรณีของ KTB ของมันรู้กันมาตั้งนานแล้วว่า สตอรี่ไม่ให้…ปัจจัยไม่หนุน แต่ดันกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง สุดท้ายเลยค้างอยู่บนดอยสมใจอยาก “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของความอยากส่วนตัว เวลาเห็นแสงสีเขียวๆ มักเกิดอาการคันไม้คันมือ พอติดหุ้นขึ้นมาจริงๆ ก็คงโทษใครไม่ได้อีกแล้ว เพราะในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ หุ้นก็วิ่งขึ้นมาบริเวณนี้ ต่อจากนั้นร่วงลงมายืนอยู่แถว 16 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ 17.50 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 1.88 พันล้านบาท คุณคิดว่า วันนี้หุ้นจะขึ้นหรือลงล่ะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่โอเว่อร์สุดๆ และดูเหมือนจะพาคนไปค้างบนดอยเล็กๆ เรียบร้อยก็คือ TMB วานนี้เด้งขึ้นมาปิดที่ 2.28  บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 890 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นที่พอเข้าใจได้ว่า จังหวะนี้ไม่มีหุ้นให้เล่น ทุกคนเลยกระโจนเข้าใส่ก็เท่านั้นเอง!…ขนาดรอบที่แล้วเชียร์แบบสุดใจขาดดิ้น เพราะหุ้นออกสตาร์จากบริเวณ 2 บาท พร้อมกับทำท่าจะไปยืนเหนือ 2.40 บาท แต่สุดท้ายก็จอดไม่ต้องแจวแถว 2.30 บาท…มันน่าชี้ช้ำไหมล่ะตัวเอง

*เช่นเดียวกับในรายของ BWG ถือเป็นอีกหนึ่งเกมโหดที่ทุกคนพุ่งเป้าไปยัง “เจ้าของ” ส่วนจะเกี่ยวข้องกันแค่ไหน? “โมนิก้า” ไม่สามารถออกตัวรับแทนเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่ที่รู้แน่ๆ ชมรมแมงลือแห่งประเทศไทยยังชี้เป้าไปที่ก๊วนเดิม ยิ่งหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.64 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท…แมงวัน แมงวี่ ถึงเม้าท์ถึงก๊วนนี้ไม่เลิกกันสักทีพะยะค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ EA ดูเหมือนว่า ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็นกระมัง แรงซื้อถึงไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 25.75 บาท บวกไป 0.95  บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเป็นกิมมิคที่ทำให้ทุกคนเชื่อว่า ต่อจากนี้จะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น…จริงหรือไม่ ดูกันต่อไปนะจ๊ะ

*ตบท้ายกันที่ AUCT เพื่อความบันเทิงเริงใจสักหน่อย ประเด็นของหุ้นไม่มีอะไรต้องวอรี่ ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงาน แถมได้ยินข่าวแว่วๆ ผลดำเนินงานในครึ่งหลังปี 59 มีสิทธิ์ออกมาแจ่มแจ๋วเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ บวกกับแมงเม่าหายตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 210 ล้านบาทไงล่ะ…แถมเป็นการขึ้นแรงวันแรกแบบนี้ มันมีแก๊ปให้เล่นต่อเยอะพอสมควรนะเนี่ย!