สตรอง..เสียงสูง!โมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้ซึ้งถึงสัจธรรมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างดี เพราะสิ่งที่เคยคาดคิดว่า น่าจะเป็นเหมือนกับที่ผ่านมา สุดท้ายก็ไม่เป็นเหมือนกับที่มีการประเมินไว้ ส่งผลให้นักเล่นเกิดอาการอึ้งกิมกี่กันในวงกว้าง พร้อมกับเกิดอาการลังเลใจขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้น มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนไม่สามารถตอบได้เหมือนกัน และขอพูดแค่ว่า ตลาดหุ้นไทย..สตรอง..เสียงสูง! “อิอิอิ”
*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้ซึ้งถึงสัจธรรมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างดี เพราะสิ่งที่เคยคาดคิดว่า น่าจะเป็นเหมือนกับที่ผ่านมา สุดท้ายก็ไม่เป็นเหมือนกับที่มีการประเมินไว้ ส่งผลให้นักเล่นเกิดอาการอึ้งกิมกี่กันในวงกว้าง พร้อมกับเกิดอาการลังเลใจขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้น มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนไม่สามารถตอบได้เหมือนกัน และขอพูดแค่ว่า ตลาดหุ้นไทย..สตรอง..เสียงสูง! “อิอิอิ”
*ขนาดตลาดหุ้นต่างประเทศโดนถล่มอย่างหนักหน่วง ตลาดหุ้นไทยกลับกระโจนทะยาน พร้อมกับสวนภาวะอย่างร้อนแรง จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 1,507.47 จุด บวกไปทั้งสิ้น 9.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.26 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติเกินไปหน่อย เพราะถ้าดูเนื้อแท้ของรายละเอียดดังกล่าวจะเห็นว่า ยังเป็นมุมเดิมๆ ที่ทำให้ดัชนียืนหยัดอยู่ได้นะคะ
*งานนี้ต้องกลับไปดูทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว เป็นไปในทิศทางเดียวกับฝรั่งตาน้ำข้าวขายหุ้นทิ้งหรือเปล่า? หากรูปการณ์ออกมาในโทนดังกล่าว ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไปได้ไม่กี่น้ำ..เดี๋ยวก็จอดไม่ต้องแจว “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับ ลองนั่งคิด..ตามองบน สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้มีความเสี่ยงขนาดไหน? เพื่อกำหนดก้าวย่างของการลงทุนในเที่ยวนี้เจ้าค่ะ
*เนื่องจากของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ฝรั่งหัวทองล้วนๆ ที่ทำให้หุ้นไทยมีวันนี้ และถ้ามองการขยับขึ้นมายืนเหนือ 1,500 จุดอีกรอบ อาจเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็จริง ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ดัชนีควรย่ำฐานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของรากฐานเสียก่อน “โมนิก้า” ถึงมองภาพของการลงทุนในสัปดาห์นี้ยังเป็นแค่ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” ไม่มีอะไรต้องตีความมากไปกว่านั้นพะยะค่ะ
*เหมือนกับรายของ BEM พอเทขายกันอย่างหนำใจ แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาอีกหน จนดันหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.15 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 4.73 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้เป็นจังหวะของการเล่น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใครจะเล่นช่วงไหน? เดี๊ยนถึงพยายามหาข้อมูลใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังเป็นประจำ เพราะเป็นเพียงหนทางเดียวที่ทำให้นักเล่นมองเห็น “โอกาส” และ “อุปสรรค” ได้ด้วยตนเองนะคะ
*เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ยกโขยงขึ้นสู่แดนบวก ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” กลับมองเป็นเพียงการเด้งสั้นๆ เพราะวงรอบของหุ้นยังอยู่ในช่วงพักตัว ช่วงนี้ถึงเห็นหุ้นแกว่งตัวค่อนข้างถี่ ซึ่งเป็นการเลือกทางเดินของตัวเองว่า “ขึ้น” หรือ “ลง” จึงฟันธงลงไปได้ทันทีว่า คนที่คิดจะเล่นต้องยึดหลัก “กำไรน้อยๆ แต่กำไรนานๆ” เพื่อความสบายใจของผู้เล่นเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งกรณีที่ขึ้นอยู่กับความสบายใจของผู้เล่นก็คือ สองแม่ลูกคู่ชู้ชื่น TIPCO กับ TASCO จู่ๆ ทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรง พร้อมกับมีคำแนะนำให้เล่นตามในทันทีนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนจะเล่น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กลายเป็นบทเรียนให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น จึงต้องขอเตือนว่า ช่วงที่ขาใหญ่ โบรกเกอร์ จูบปากกันอย่างดูดดื่ม โลกทั้งใบก็กลายเป็นสีชมพู พอมีบางคนเริ่มชิงขายหุ้นออกมาก่อน ยุทธการสาดโคลนใส่กันไปมา ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว..หนูจำได้ดีเลยแหละ
*ฉะนั้นการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 16.30 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 10.10% ด้วยมูลค่า 830 ล้านบาท ส่วนตัวลูกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 27.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการจุดกระแสแค่ระยะหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันร่วงลงต่อเนื่อง มักเห็นหุ้นตัวนี้กลับมาโบยบินเป็นประจำนะจะบอกให้
*ส่วนหุ้น LOXLEY ซึ่งเคยเป็นอดีตหวานใจของ “โมนิก้า” มาช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้น วันนี้กลับมาโบยบินเต็มรูปแบบอีกครั้ง แถมมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เลยทำให้เดี๊ยนเกิดอาการใจอ่อนขึ้นมาในทันที ยิ่งเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.90 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 225 ล้านบาท ยิ่งทำให้เดี๊ยนต้องหันมามองหวานใจรายนี้อย่างรวดเร็ว เพราะหุ้นกำลังพยายามขึ้นไปยืนเหนือ 3 บาทอีกรอบ บวกกับราคาหุ้นที่เทรดวานนี้อยู่บน P/BV ไม่ถึง 1 เท่า มันน่าสนใจสุดๆ นะเนี่ย!
*สำหรับในรายของ ILINK มันเป็นจังหวะของคนต้องการสิทธิ์ซื้อหุ้นลูกยอดกตัญญู ITEL ซึ่งกำลังจะเข้าเทรดช่วงกลางไตรมาส 3 “โมนิก้า” ถึงแนะนำให้แฟนคลับลองไปดูสัดส่วน 6.0404 หุ้นแม่ ได้สิทธิ์ซื้อ1 หุ้นลูก มันคุ้มกับการลงทุนขนาดไหน? หากคิดไม่ออกมา เดี๊ยนขอเสนอหน้าเลยว่า “คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” เพราะบริษัทลูกกำลังอยู่ในช่วงขยายตัวสุดๆ กำไรโตราวกับดอกเห็ด ส่งผลให้ราคาหุ้นแม่ถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 21.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่า 175 ล้านบาท หุ้นถึงมีโอกาสไปต่อไงล่ะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ QTC ซึ่งเป็นหุ้นที่มีนักลงทุนเข้ามาเล่นเยอะแยะไปหมด แต่เผอิญรายนี้มาด้วยเกมการเงินเป็นหลัก “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาในทันที หากทำได้จริงเหมือนกับที่โม้ไว้เยอะ ก็ทำให้ราคาหุ้นที่ระดับ 14.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 67 ล้านบาท ไม่แพงเกินไป! หากทำไม่ได้เหมือนที่พูดไว้ ตัวใคร..ตัวมันนะจ๊ะ
*ป.ล.วานนี้ฝรั่งทิ้ง กองทุนตัวแสบทิ้ง ปอบผีฟ้าทิ้ง ส่วนแมงเม่าดันสุดลิ่มทิ่มประตูแบบนี้..เสียวสุดๆ..!!!