FSMART …เหยียบเปลือกกล้วยแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ชะตากรรมพลิกผัน เพราะเล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับ...พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ผู้ช่ำชองทั้งบู๊และบุ๋น..


ชะตากรรมพลิกผัน เพราะเล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับ…พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ผู้ช่ำชองทั้งบู๊และบุ๋น..

นี้คือบทเรียนอันแสบสัน..ยิ่งกว่าทา ซีม่า โลชั่น…ซึ่งนายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ได้รับจากกรณีถูกสมาคมฟุตบอลฯประกาศเพิกถอนการเป็นตัวแทนจำหน่าย ตั๋วฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเซีย รอบ 3 (5 Matchs)

ด้วยข้ออ้างว่า ระบบของ FSMART ไม่สามารถรองรับความต้องการในการซื้อตั๋วของแฟนบอลได้ อีกทั้งยังไม่สามารถแก้ไขระบบให้ใช้งานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด และปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดช่องทางในการจำหน่ายตั๋วเกินราคา

แผนการทางธุรกิจที่วาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ของ FORTH ที่ว่า การรับงาน เป็นตัวแทนจำหน่าย ตั๋วฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเซีย นั้น หวัง “กล่อง” มากกว่า “เงิน

ตั้งแต่แรกแล้วที่นายสมชัยรับงาน ได้บอกว่า รายได้ที่น้อยนิดแค่ 10 ล้านบาทเศษนั้น ไม่ใช่เป้าหมายของ FORTH ที่ทำ “ตู้บุญเติม” ในตลาดล่าง จนไร้คู่แข่งมานานหลายปีแล้ว แต่เป้าหมายที่เหนือกว่ารายได้ เป็นการช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่สามารถนำมาเพิ่มช่องทางการขายบริการหน้าตู้บุญเติมได้ในอนาคต ซึ่งจะสร้างรายได้จากการโฆษณาหน้าตู้เพิ่มด้วย

ที่สำคัญ จะช่วยให้บริษัทเรียนรู้การบริหารจัดการด้วยระบบออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำกำไรไปด้วย

อย่างหลังนี้แหละที่ นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว (ยกเว้นในด้านราคาหุ้นที่รับขาวดีเอิกเกริกถึงขั้นทำนิวไฮก่อนวันเปิดจองตั๋วจริง) ยังพลอยทำให้มัวหมองไปถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ ตู้บุญเติม ไปด้วย ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

ราคาหุ้นของ FSAMRT นับตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน จนถึงเย็นทำนิวไฮเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม โดยอาศัยข่าวเรื่องของบริษัทได้รับอนุมัติเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 5 ครั้ง โดยได้ค่าธรรมเนียมการดำเนินการตั๋วละ 15 บาท โดยผ่านระบบจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ และจ่ายเงินชำระค่าตั๋วผ่านตู้บุญเติมของบริษัททั่วประเทศประมาณ 7 หมื่นตู้

เมื่อถึงวันเปิดให้จองซื้อตั๋วจริงวันแรก เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา การออกแบบระบบซึ่งรอบคอบมากเกินของระบบการจองตั๋วผ่านเว็บ House of Ticket ที่ตั้งค่าความปลอดภัยไว้ในระดับสูง ตามมาด้วยการเกิดความขัดข้องในขั้นตอนของการสำรองบัตรเข้าชม

การ “เล่นท่ายาก” ของ FSMART ทำให้มีจำนวนผู้สนใจจองซื้อจำนวนมากทางเว็บไซต์ ที่ไม่สามารถทำรายการได้สำเร็จ ด้วยปัญหาทางเทคนิคบางประการ และมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกำหนดเวลาตามที่ชี้แจงไว้

 ทำเอา พล.ต.อ.สมยศ ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ ถึงกับควันออกหูกันเลย เพราะคุยเอาไว้เยอะว่า บริษัทเองบอกว่าไม่มีปัญหา และให้ข้อเสนอที่ดีกว่าบริษัทเดิม

ท่านนายกสมาคมฟุตบอลฯมองว่า การที่ FORTH ได้ออกหนังสือประกาศขอโทษและชี้แจงการปรับปรุงระบบการทำงานของเว็บไซต์ …ไม่เพียงพอ จึงให้เวลา 3 ชั่วโมงในการแก้ไข

ถ้าไม่แล้วเสร็จ จะยกเลิกสัญญาทันที แล้วให้บริษัทอื่นมาทำใหม่ และจะเซตซีโร่ทันที

แล้ว..ก็เป็นไปตามนั้น…ทางใครทางมัน..โดยให้เหตุผลพ่วงท้ายที่ไม่จำเป็นว่า … “ปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดช่องทางในการจำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันฯ เกินราคา…” ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย

จะอ้างซะอย่าง ใครจะทำไม

เล่นเอา เอ็มดีใหญ่ อย่างนายสมชัย ต้องออกมายกมือไหว้สื่อและแฟนบอลในการแถลงข่าววันต่อมา        โดยมีสาระสำคัญว่า  1) น้อมรับในคำตัดสินของสมาคมฟุตบอลฯ 2) การเพิกถอนสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋ว จะไม่กระทบผลประกอบการปี 2559 เนื่องจากรายได้ที่เกิดขึ้นไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัท 3) จะหารือร่วมกับสมาคมฟุตบอลฯในเรื่องสัญญาและกระบวนการเยียวยาและรับผิดชอบลูกค้าที่ซื้อตั๋วได้แล้ว กว่า 10,000 ที่นั่ง และมีผู้ชำระเงินแล้วหลักร้อยที่นั่ง จึงต้องเจรจากับสมาคมฯ เพื่อหาข้อสรุป…จบกันไป

มีคำถามแทรกขึ้นมาว่า บทเรียนในครั้งนี้ จะทำให้ FSMART เลิกราจากการทำธุรกรรมเป็นตัวแทนขายตั๋วในอนาคตหรือไม่...ทำนองเข็ดแล้ว…ไม่อาววววว” ดีกว่า

เอ็มดีใหญ่ (ตัวเล็ก) กลับตอบหน้าตาเฉยว่า …ไม่มีทาง  ยังไงก็จะทำต่อ เพราะนักธุรกิจไม่มีคำว่าเข็ด

เหตุผลคือ ธุรกิจการจำหน่ายตั๋วมีความน่าสนใจแม้จะมีเจ้าตลาดอยู่แล้ว แต่บริษัทมีช่องทางการรับชำระเงิน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการซื้อขายตั๋ว และบริษัทยังไม่ถอดใจในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว แต่ต้องใช้เวลาในการปรับปรุงระบบ โดยปัจจุบันบริษัทมีการเจรจากับพันธมิตรในการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วหลายราย ทั้งสื่อบันเทิง กีฬา ขนส่ง เป็นต้น และในอนาคตบริษัทหวังเป็นผู้เล่นรายสำคัญของตลาด

ย้ำเสียงดังฟังชัดอย่างนี้ ทราบแล้วเปลี่ยน

เพราะงานนี้ แค่เหยียบเปลือกกล้วพลาด…ลื่นแผล็บเท่านั้น ไม่ได้ล้มหัวฟาดพื้นสักหน่อย

“…อิ อิ อิ…

Back to top button