บันไดขาขึ้น?โมนิก้าและทีมงาน
*หากเม้าท์มอยถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ “โมนิก้า” ก็มีคำอธิบายจากกูรูหลายสำนักนำมาบอกเล่า แต่เผอิญเดี๊ยนไม่ค่อยชอบเม้าท์เรื่องอย่างว่า เพราะมันไม่มันในอารมณ์ แถมไม่ได้รสชาติของชีวิต จึงขอนำแฟนคลับกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง เพื่อเตรียมพร้อมในการไล่ล่าราคาหุ้นระลอกใหม่ที่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังกองทุนต่างๆ ในตลาดหุ้นมีความมั่นใจในการลงทุนอย่างแรงน่ะสิ
*หากเม้าท์มอยถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ “โมนิก้า” ก็มีคำอธิบายจากกูรูหลายสำนักนำมาบอกเล่า แต่เผอิญเดี๊ยนไม่ค่อยชอบเม้าท์เรื่องอย่างว่า เพราะมันไม่มันในอารมณ์ แถมไม่ได้รสชาติของชีวิต จึงขอนำแฟนคลับกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง เพื่อเตรียมพร้อมในการไล่ล่าราคาหุ้นระลอกใหม่ที่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังกองทุนต่างๆ ในตลาดหุ้นมีความมั่นใจในการลงทุนอย่างแรงน่ะสิ
*เนื่องจากปัจจัยที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนแวลูของหุ้น ยังเป็นเพียงแค่การมโนภาพไปวันๆ แรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละรอบถึงเยอะบ้าง น้อยบ้าง โดยทุกคนยังฝากความหวังไว้ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างช้าๆ เพราะลำพังแค่การเข้าซื้อของฝรั่งตาน้ำข้าว ดัชนีก็พุ่งสวนกระแสตลอดเวลา แถมมาเจอกองทุนตัวแสบ กับปอบผีฟ้าช่วยกันดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ตลาดหุ้นไทยเลยวิ่งขึ้นอย่างร้อนแรงไงล่ะค่ะ
*ประเด็นเหล่านี้ทำให้ “โมนิก้า” มองไซเคิลการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นลักษณะบันไดขาขึ้น หรือ Sideway Upโดยระหว่างทางขาขึ้นจะมีการพักตัวให้เห็นเป็นระยะ และอย่าลืมว่า การเด้งขึ้นเที่ยวนี้ไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต จึงต้องเน้นยุทธวิธี “เข้าเร็ว ออกเร็ว” เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการ “ลดพอร์ต เพิ่มพอร์ต” ที่น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้นะจ๊ะ
*ข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อเช่นนั้นเป็นผลมาจากดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,542.26 จุด บวกไป 23.57 จุด ด้วยมูลค่า 7.62 หมื่นล้านบาท โดยแมงเม่าฉวยจังหวะเทขายหุ้นทำกำไรไปทั้งสิ้น 9.52 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวดอดเข้ามาเก็บหุ้น 6.88 พันล้านบาท ส่วนอีกสองหน่อที่เหลือก็เก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปคนละพันกว่าล้านบาท หุ้นถึงมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปอีกไงล่ะค่ะ
*โดยเฉพาะในรายของหุ้นกลุ่มแบงก์ กำลังก่อร่างสร้างตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนไซเคิลของหุ้นก่อตัวเป็นแบบ u-shape แถมในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีวอลุ่มซัพพอร์ตเข้ามาอย่างหนาแน่น “โมนิก้า” ถึงต้องปรับมุมมองหุ้นกลุ่มนี้ใหม่อีกรอบ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน แถมหุ้นแบงก์บางตัวยังกระชากผ่านแนวต้านเดิมขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งเสียด้วยแบบนี้.. มันเป็นจังหวะ follow buy ชัดๆ นะตัวเอง
*เช่นเดียวกับในรายของ AOT ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมาระยะหนึ่ง และเผอิญหุ้นกระชากขึ้นมา double top ที่บริเวณ 430 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 412 บาท บวกไป 17 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 3.38 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการเล่นต่อ และสามารถมองการขึ้นไปยืนเหนือจุดสูงสุดครั้งก่อนได้ทันทีอีกด้วยนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่น่าติดตามดูก็คือ TFG เผลอแป๊บเดียวหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.54 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 15 % ด้วยมูลค่า 282 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นน่าตามไปดูเหลือเกิน เพราะตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นทะยานขึ้นแบบเงียบๆ วันนี้ถึงต้องพุ่งเป้าไปที่ตัวผู้เล่นล้วนๆ ว่า มองหุ้นตัวนี้เป็นอย่างไร? ใช่โอกาสสำหรับการลงทุนหรือเปล่า.. “อิอิอิ”
*ส่วนในรายของ BIG ภาพรวมของบริษัทดูดีไปหมดทุกอย่าง แต่ราคาหุ้นกลับทรุดโทรมราวกับธุรกิจมีปัญหา “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่นักเล่นต้องวิเคราะห์ให้ดีๆ เพราะไซเคิลของหุ้นก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาดี จู่ๆ กลับมีแรงเทขายล็อตใหญ่ถล่มออกมาไม่เลี้ยง จนหุ้นมาปิดที่ 4.50 บาท ลบไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 575 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าตามไปแซะข้อมูลมากๆ พะยะค่ะ
*ทางด้านคนที่ชอบ “ของแท้ แน่นอน” วันนี้ต้องหันมามอง EPG ก่อนหุ้นตัวอื่นๆ และเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ปักใจเชื่อเช่นนั้น ล้วนมาจากสายลับสองสลึงไปล่วงรู้มาว่า พัฒนาการของธุรกิจไม่ได้หยุดนิ่งอยู่แค่นี้ (ส่วนจะเป็นอะไร อดใจรอสักครู่) ภาพของหุ้นถึงเริ่ดสะแมนแตนสุดๆ หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 333 ล้านบาท เดี๊ยนถึงพูดได้คำเดียวว่า พลาดแล้วจะเสียใจ! เพราะเป็นไซเคิลเดิมของหุ้นวิ่งไปมาในกรอบ 11.60-14.20 บาทน่ะสิ
*ของแท้แน่นอนอีกหนึ่งรายต้องยกให้ CK เพราะนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะเป็นปีทองที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากโครงการต่างๆ ที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองดูการขึ้นมาปิดที่ 34.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท มัน เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของการยกฐานแนวรับให้สูงขึ้นกว่าเดิม..วันนี้เดี๊ยนถือว่า บอกข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้เต็มๆ แล้วนะคะ
*เหมือนกับในรายของ EA ทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่า กำไรโตขึ้นทุกปี! แต่ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นเกิดอาการวิตกจริตขึ้นมาทีไร มักโดนกระหน่ำเทขายทิ้งออกมาก่อนเป็นประจำ พอคล้อยหลังจากนั้นก็กลับเข้ามาไล่ซื้อใหม่ “โมนิก้า” ถึงชอบเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้เป็นประจำทุกครั้งที่ “ลงแรง” หรือ “ขึ้นแรง” ล่าสุดหุ้นลงมาปิดที่ 25.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท แถมผู้บริหารยืนยันว่า หุ้นอยู่ครบทุกคน..น่าซื้อไหมล่ะตัวเอง
*สำหรับในรายของ KCM ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังของนักโหนกระแส แต่ขอเตือนไว้นิดหนึ่งว่า หุ้นค่อนข้างมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน หากคิดจะลุยสุดตัว ต้องกระโจนเข้าใส่ในทันที หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.19 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ซึ่งเป็นการชนแนวต้านแถวนี้พอดิบพอดี แถม 2 ครั้งก่อนหน้านี้ไม่สามารถวิ่งทะลุไปได้ จึงต้องดูครั้งที่ 3 จะผ่านไปได้อะป่าวเจ้าค่ะ
*สุดท้ายนี้ “โมนิก้า” ขอแสดงความยินดีกับบริษัท TVT ซึ่งทำการเปิดสตูดิโอใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ แถมเป็นสตูดิโอที่ใหญ่สุดในอาเซียนเสียด้วย สงสัยไตรมาส 4 หุ้นคงจะวิ่งฉิวน่าดูเจ้าค่ะ