ซินเดอเรลล่าหลังเที่ยงคืนพลวัต 2016
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยขานรับการลงประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันอาทิตย์ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาอย่างร้อนแรงตามที่ “คนเชียร์แขก” ทั้งหลายคาดเดากันเอาไว้ล่วงหน้า ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ 1,542.26 จุด ทำนิวไฮของปีนี้ไปได้ฉลุย
วิษณุ โชลิตกุล
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยขานรับการลงประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันอาทิตย์ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาอย่างร้อนแรงตามที่ “คนเชียร์แขก” ทั้งหลายคาดเดากันเอาไว้ล่วงหน้า ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ 1,542.26 จุด ทำนิวไฮของปีนี้ไปได้ฉลุย
ความร้อนแรงของตลาดยามนี้ ไม่น่าประหลาดใจที่จะมีคนออกมาชี้แนะว่าตลาดจะต้องวิ่งขึ้นต่อไป โดยละเลยต่อข้อเท็จจริงว่า พี/อีของตลาดล่าสุดอยู่ที่ระดับมากกว่า 23.5 เท่าเข้าไปแล้ว น่าจะสูงระดับหัวแถวของโลก
เริ่มต้นตั้งแต่คนเชียร์แขก “ตัวพ่อ” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผลการลงประชามติ จะทำให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติมีความมั่นใจ ส่งผลให้การลงทุนที่ชะลอมานานจะเริ่มเดินหน้าได้ และทำให้ตัวแปรเศรษฐกิจไทยจะเหลือเพียงแค่เรื่องเดียว คือเรื่องส่งออก โดยยืนยันว่า “เมฆหมอกผ่านไปแล้ว นักลงทุนทั้งไทย ทั้งต่างชาติ ก็โล่งใจ เพราะเขาเชื่อว่าอีก 1 ปีจะมีการเลือกตั้ง”
ส่วนนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา แห่ง บลจ.บัวหลวง ก็ไม่รอช้าออกมา “ตีเหล็กยามร้อน” คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นในตลาดหุ้นไทยนับจากนี้จนถึงสิ้นปี เนื่องจากคาดว่า จะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปของรัฐบาลที่วางไว้ ประกอบกับมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3.2-3.3% จากเดิมคาดโต 2.8-2.9% ทำให้มีการปรับคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีการลงทุนของโครงการภาครัฐ และจะมีการลงทุนของเอกชนตามมาด้วย หลังจากที่ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้าตลาดหุ้นไทยราว 8 หมื่นกว่าล้านบาท
เสียงเชียร์ว่าตลาดหุ้นไทยจะวิ่งต่อขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ๆ อีก ทั้งที่ขึ้นมาจนเข้าเขตซื้อมากเกินเช่นนี้ จะยังคงมีต่อไป และไม่หยุดง่าย ทั้งที่หากพิจารณาข้อเท็จจริง จะพบว่าเป็นท่าที “พาคนไปตาย” ที่พึงระวัง
การย้อนกลับไปอ่านนิทานเปรียบเปรยเก่าแก่ เขียนโดยเบนจามิน แกรห์ม ว่า ต้นกำเนิดของกลยุทธ์ลงทุนแบบวีไอ. ยังคงเป็นคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีจากก้นบึ้งของหัวใจ
แกรห์ม ตั้งข้อสมมติว่า หากนักลงทุนมีเพื่อนรักร่วมชะตากรรมชื่อ คุณตลาด จะต้องเผชิญสถานการณ์ดังต่อไปนี้
เพื่อนรักคนนี้ มีชื่อว่า คุณตลาด ซึ่งเข้ามาสร้างความสนิทสนมกับเขาเองในทุกๆ เช้าอย่างคุ้นเคย แล้วก็บอกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดเมื่อวานนี้ในตัวที่เขาสนใจเป็นอย่างไร ราคาเปิด ราคาปิด และความเคลื่อนไหวระหว่างวัน จากนั้นเขาก็สาธยายออกมาว่า เส้นสัญญาณทางเทคนิคบอกเอาไว้ว่าอย่างไร และเบื้องหลังเหตุในการเปลี่ยนแปลงราคาเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง
แล้วคุณตลาดจะบอกอีกว่า เขามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้สามารถหากำไรจากราคาหุ้นที่เขาซื้อขายได้ จากนั้นเขาก็จะแนะนำหุ้นเด็ดสำหรับเปิดตลาดเช้าวันนี้ให้ โดยบอกว่ามีทีเด็ดอะไรบ้าง
ข้อมูลของคุณตลาดนั้น เขาบอกเอาไว้เลยว่า ไม่ต้องใส่ใจเลยว่ามันจะสัมพันธ์กับคุณค่าหรือตัวเลขทางบัญชีหรือผลประกอบการใดๆ ของบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นในตลาด เพราะราคามีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระในระยะสั้นๆ ตามกลไกของตลาดคือแรงขายกับแรงซื้อ
เขาย้ำว่า อารมณ์อยากซื้อหรือขาย มันเป็นอารมณ์ที่แก้ไขได้ยาก นักลงทุนที่ไหนก็มีกันในตัว แต่หากสังเกต จะพบได้ไม่ยากในหลายๆ ครั้งว่า ความรู้สึกและอารมณ์ของคุณตลาดนั้น เกิดจากจินตนาการของเขาเองมากกว่าจากข้อเท็จจริง
ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขารู้สึกอิ่มเอิบ เขาจะมองเห็นข้อดีเต็มไปหมด เวลาที่เขาตื่นเต้นคึกคัก เขาจะรีบร้อนซื้อขายมือเป็นระวิง ราวกับว่าจะถูกคนอื่นแย่งซื้อขายหรือชักผลประโยชน์จากเขามากเกินไป แต่ยามใดที่เขารู้สึกเศร้าหมอง เขาจะมองเห็นแต่เรื่องเศร้าสลดรอบด้าน แล้วก็จะสั่งขายอย่างเดียว
แม้นิสัยอย่างที่กล่าวมาข้างต้นจะน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่คุณตลาดก็มีข้อดีคือ เขาไม่ใส่ใจกับอารมณ์แปรปรวนของคนอื่นๆ เวลาที่มีคนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา หรือ ไม่มีใครใส่ใจกับคำแนะนำให้ซื้อให้ขายของเขา เขาก็จะหายหน้าไปพักหนึ่ง แต่วันรุ่งขึ้น เขาก็จะกลับมาทักทายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป้าหมายของคุณตลาดก็คือ ให้เพื่อนๆ ของเขาซื้อและขายบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาถือว่า ยิ่งซื้อขายมากเท่าใด จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่เคยบอกกับใครๆ เลยว่า ซินเดอเรลล่าในงานเลี้ยงที่พระราชวังของเจ้าชายรูปงามนั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้วจะกลายเป็นสาวใช้ และรถเทียมม้าโก้หรูที่โดยสารมา จะกลายเป็นแค่ฟักทองในสวน กับ หนูโสโครกในท่อระบายน้ำ
เขาบอกว่า หน้าที่ของเขาคือ ให้บริการข้อมูลกับเพื่อนๆ ไม่มีหน้าที่ในการชี้นำเพื่อนๆ ให้ไปตามที่เขาต้องการ เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง จิตสงบนิ่ง และเป็นประชาธิปไตยเสมอ
เขาบอกเสมอว่า กระเป๋าเงินสำคัญกว่าไขมันที่อยู่ในสมองเสมอ เพราะมันทำประโยชน์ให้ได้มากกว่า เนื่องจากจับต้องได้ ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย
ที่สำคัญ เพื่อนๆ อยากจะต่อว่าหรือด่าทอ หรือขัดคอเขาใดๆ ก็ย่อมได้ทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนด้านชาที่ไม่เคยถือโกรธใครเลย
สิ่งที่คุณตลาดเตือนเพื่อนๆ ก็มีอยู่เพียงแค่ว่า อย่ายอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของเขา หรืออ้างว่าซื้อขายเพราะเขาชี้นำก็แล้วกัน เพราะเขาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ คำแนะนำก็เป็นแค่การให้ข้อมูลที่เป็นกลางด้วยสุจริตใจเท่านั้นเอง เพื่อให้เพื่อนๆ รู้ว่ากติกาของเกมที่กำลังกระทำกันอยู่นั้น มันมีอะไรบ้าง
คุณตลาดจะพร่ำย้ำเสมอด้วยถ้อยคำของนักการพนันโป๊กเกอร์ว่า “หากคุณนั่งลงที่โต๊ะนานเกินครึ่งชั่วโมง แล้วยังไม่รู้ว่าคนในวงมีใครเป็นหมูตู้บ้าง ขอให้จำไว้เสมอว่า คุณนั่นแหละคือหมูตู้เสียเอง”……….
หวังใจว่า นักลงทุนขาประจำของ ข่าวหุ้นธุรกิจ จะไม่เป็นซินเดอเรลล่าหลังเทียงคืน ดังที่แกรห์มว่าไว้