บลูชิพนอนมาโมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนกลิ่นอายของการลงประชามติยังมีอยู่นิดๆ แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันถึงพยายามดันให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,550 จุดตลอดเวลา จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าห่วงไม่ใช่น้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า วันนี้ยังเล่นหุ้นกันตามอารมณ์ ไม่ได้มีการวางแผนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเอาเสียเลย “โมนิก้า” ถึงพยายามชี้ให้เห็นว่า ภาพใหญ่ของหุ้นจะออกมาเป็นแบบไหนเจ้าค่ะ
*ดูเหมือนกลิ่นอายของการลงประชามติยังมีอยู่นิดๆ แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันถึงพยายามดันให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,550 จุดตลอดเวลา จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าห่วงไม่ใช่น้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า วันนี้ยังเล่นหุ้นกันตามอารมณ์ ไม่ได้มีการวางแผนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเอาเสียเลย “โมนิก้า” ถึงพยายามชี้ให้เห็นว่า ภาพใหญ่ของหุ้นจะออกมาเป็นแบบไหนเจ้าค่ะ
*เนื่องจากสิ่งที่เห็นถี่ยิบในช่วงนี้ มันเป็นเรื่องของฟันด์โฟลว์มากกว่าประเด็นอื่นๆ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นในกระดานที่สำคัญ และเมื่อเหลือบดูเงินทุนดังกล่าวที่จะไหลเข้ามาสมทบเพิ่มเติมในภายภาคหน้า “โมนิก้า” ถึงอยากเห็นแมงเม่าทยอยขายหุ้นทำกำไรออกไปเรื่อยๆ เพราะหุ้นบางตัวทะลุยอดเดิมขึ้นมาได้นิดหน่อย ก็เริ่มออกอาการไปต่อไม่ไหวแล้วน่ะสิ
*ที่สำคัญคือ การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิด 1,548.21 จุด บวกไป 5.95 จุด ด้วยมูลค่า 6.98 หมื่นล้านบาท โดยฝรั่งหัวทองยังเดินหน้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปอีก 5.29 พันล้านบาท ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นๆ อย่าง แมงเม่า กองทุนตัวแสบ หรือแม้กระทั่งปอบผีฟ้า ล้วนพากันเทขายหุ้นกันอย่างสนุกมือแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วนพะยะค่ะ
*โดยกลุ่มหุ้นที่สวมบทพระเอกอย่างเต็มตัวในเที่ยวนี้ได้แก่ “บลูชิพ” หลังตกเป็นเป้าหมายในการซื้อของพวกฝรั่งหัวทอง “โมนิก้า” จึงขอพูดตามตรงว่า หุ้นในกระดาน most activeที่ปิดเขียวปี๋ 10 อันดับแรก กลายเป็น Benchmark ว่า ดัชนีจะไปในทางไหน? และเมื่อดูจากทิศทางลมในประเทศ และทิศทางลมจากต่างประเทศ จึงเชื่อได้ว่า หุ้นกลุ่มดังกล่าวจะนอนมา (ไม่มีพระนำ) นะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวดูได้จากการกระชากขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งตัวอีฉันได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วว่า นี่คือหุ้นที่น่าจะ follow buyเพราะกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะในทางปฏิบัตินั้น ถือว่ามาดีกว่าที่คาดไว้หลายเท่า ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่า กรอบการวิ่งแรลลี่ยาวๆ จะหดลงอย่างชัดเจน จึงน่าจะเคาะขวาแบบเบาๆ ก็พอนะคะ
*เหมือนกับในรายของ IVLพอหุ้นวิ่งทะลุกรอบบนบริเวณ 35 บาทแบบชิวๆ ก่อนจะลงเอยด้วยการขึ้นมาปิดที่ 35.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท “โมนิก้า” ก็ต้องมานั่งคิดแล้วว่า หลังจากนี้สถานการณ์จะเป็นเช่นไร? เนื่องจากองค์ประกอบของบริษัทไม่ซัพพอร์ตเท่าที่ควร แถมวันนี้ก็มาด้วยน้ำมือฝรั่งล้วนๆ มันควรแก่การ take profitแล้วเจ้าค่ะ
*ขนาดหุ้นที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาได้ ยังเกาะเกี่ยวกระแสดังกล่าวมาเฉยเลย “โมนิก้า” ถึงต้องลุกขึ้นถามแฟนคลับอย่างละเอียดว่า DTACมีข้อมูลอะไรบ้างที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะทะยานขึ้นอย่างมั่นคง!หากหาคำตอบจากตรงนี้ไม่ได้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ราคาปิดที่ 33 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 955 ล้านบาท คงเป็นแค่อาการแมวชักกระตุกก่อนตายเสียกระมั้ง.. “อิอิอิ”
*ส่วนในรายของ SPRCก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มาโดยไม่บอก แถมประเด็นที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 9.80% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท ก็ไม่รู้มาจากอะไร? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูหุ้นให้ดีเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นเที่ยวใหม่ หรืออาจเป็นจุดจบของคนที่เข้ามารับของทีหลังก็ได้..ที่แน่ๆ คือ วันนี้รู้ผลเจ้าค่ะ
*ตบท้ายกันที่เรื่องของ ตลท. กับ ก.ล.ต. เสียหน่อย (จริงๆ ไม่อยากเม้าท์ถึง) เพราะกระแสสังคมกำลังป้องปากเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรายแรก มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นชีช้ำกระหล่ำแฉะกันถ้วนหน้า หลังกระทรวงการคลังเรียกเก็บภาษีจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง (ในรอบ 41 ปี) ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นการแลกเปลี่ยนแบบ “หมูไป ไก่มา” พะยะค่ะ
*พอเอาเข้าจริงๆ กลับมีกระแสข่าวออกมาว่า ตีความผิด? เพราะเรื่องเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเดินหน้าทำต่อไปเหมือนเดิม “โมนิก้า” ถึงกับมีอาการ so sadพร้อมกับอุทานออกมาดังๆ ว่า คุณหลอกดาว..ววว และเรื่องดังกล่าวก็คงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในวงกว้าง แต่คนที่โดนเอฟเฟ็กต์เป็นลำดับแรก คงหนีไม่พ้นพนักงานอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*ส่วนเสือกระดาษอย่าง ก.ล.ต. มันมีเรื่องให้คิดไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะข่าวคราวที่เกิดขึ้นกับ ไฮโล..เอิ๊บ..ไฮโซม่านฟ้า มันสะท้อนให้เห็นว่า ขนาดคนมีเงินยังหลอกเงินคนอื่นแบบเนียนๆ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่า ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่เข้าใจกลไกของตลาดหุ้นว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง จึงกลายเป็นเหยื่อของพวกรู้มาก เดี๊ยนถึงอยากรู้ว่า งานนี้หน่วยงานดังกล่าวจะจับมือใครดมได้บ้าง? เพราะวันนี้ก็ยังไม่มีแอ็กติ้งแบบดุดันออกมาให้เห็นเลยน่ะสิตัวเอง