TACC เหาฉลามกลายพันธุ์ แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

นายชัชชวี วัฒนสุข หรือ “เสี่ยปลา” ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่สุด บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เป็นคนเชื่อมั่นตัวเองสูง แต่ก็เก็บ “ทีเด็ด” ของตัวเองเอาไว้เงียบๆ...ไม่สังเกต ก็ไม่รู้


นายชัชชวี วัฒนสุข หรือ “เสี่ยปลา” ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่สุด บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เป็นคนเชื่อมั่นตัวเองสูง แต่ก็เก็บ “ทีเด็ด” ของตัวเองเอาไว้เงียบๆ…ไม่สังเกต ก็ไม่รู้

วันนี้ หลังจากเข้ามาเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประมาณ 1 ปี ฝีมือการตลาดของ เสี่ยปลาจึงออกลวดลายมาว่า ไม่ใช่ธรรมดา กับกลยุทธ์ “เหาฉลาม” ชั้นยอดที่เก็บรายละเอียดทุกเม็ดได้อย่างดี ทำให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง ไม่เฉพาะตลาดในประเทศ แต่ยังข้ามพรมแดนไปถึงอาเซียนและจีนด้วย

ดังที่ทราบกันดี คนทั่วไปรู้จักว่า  TACC เป็นขายน้ำดื่มใส่โถป้อนเครือข่ายสาขาของ 7-Eleven ในไทยนับพันสาขา เป็นยุทธศาสตร์ธุรกิจแบบ B2B  และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำดื่ม ยี่ห้อ เซนย่า ขายดีอันดับหนึ่งในกัมพูชา และประเทศอื่นๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ B2C …ใต้แบรนด์ของบริษัทเอง เช่น  เครื่องดื่มชาเขียว “เซนย่า” กาแฟ “วี-สลิม” เครื่องดื่ม “ณ อรุณ” และเครื่องดื่ม “สวัสดี

เดินยุทธศาสตร์ 2 ช่องทาง เท่ากับบางส่วนของธุรกิจนี้ เติบโตตามเครือข่ายของ 7-Eleven แต่อีกส่วนหนึ่งไม่ใช่ เพราะสามารถพึ่งเครือข่ายการผลิตและจัดจำหน่ายของตนเองได้เป็นอิสระ…จะเรียกว่าเหาฉลามกลายพันธุ์ ก็คงไม่ผิด

จะเป็นไรก็ช่างเถอะ แต่ความมุ่งมั่นในการดินเหน้ารุกธุรกิจนั้น TACC ถือว่ามั่นคงแข็งแกร่งและรู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ไม่มีที่จะแตกแถวว่อกแว่กกับสถานการณ์รอบด้านมากนัก

เมื่อตอนฤดูแล้งที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีภัยแล้งที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของไทย เสี่ยปลา ให้ข่าวเมื่อเดือนเมษายน แสดงความมั่นใจในช่วงที่ราคาหุ้นของ TACC อยู่ที่ระดับเฉลี่ยราว 6.00 บาท ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2559 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ตั้งแต่ไตรมาส 1/59 ได้รับโอกาสจาก 7-Eleven ให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ จากเดิม 2,500 แห่ง ขยายเป็น  5,000 แห่ง เนื่องจากความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ส่วน ชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด เติบโตตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Cafe) ในร้าน 7-Eleven กว่าเท่าตัว เพิ่มเป็น 2,300 จุด จากปีก่อนมีเพียง 1,000 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า

พร้อมกันนั้น  TACC ยังเร่งเดินหน้าติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ (Vending Machine) ตามแผน โดยปัจจุบันติดตั้งแล้ว จำนวน 45 เครื่อง และมี List รายชื่อที่รอติดตั้งอีกจำนวน 600 สาขา โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 59 จะมีทั้งสิ้น 750 เครื่อง ปี 60 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง รวมเป็น 1,500 เครื่อง กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศตามแผน มูลค่าลงทุนรวม 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ระดมทุนได้จาก IPO ในปีที่ผ่านมา

ในความมั่นใจนั้น เสี่ยปลา ระบุอย่างเจียมตัวว่า ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จาก 1,004 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักมาจากการร่วมพัฒนา (B2B) กับ 7-Eleven ซึ่งถือว่า 7-Eleven สูงถึง  80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าแบรนด์ของตนเอง

คำพูดที่ถ่อมตัวดังกล่าว ไม่สามารถปิดบังความสามารถโดยพฤตินัยของ TACC ได้ เพราะผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี พบว่าทำได้ดีกว่าที่คาดไว้เยอะ

เหตุผลก็มาจากกลุ่มสินค้าเดิมมีรายได้จากการขาย 579.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.65 ล้านบาท หรือ 16.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 496.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.05 ล้านบาท หรือ 30.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 38.95 ล้านบาท จากการที่ยอดขายชา และกาแฟเย็นในร้าน 7-Eleven เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น

โดยเฉพาะสินค้าใหม่ล่าสุดอย่าง เครื่องดื่มทุเรียน มะม่วงที่จะส่งขายในเมืองจีนในไตรมาส 4 ปีนี้ เริ่มถูกปล่อยสู่ตลาดในประเทศในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven แถวมุมกาแฟสด (All Cafe) ที่สาขาซึ่งมีนักท่องเที่ยวจีนหนาแน่นกว่า 1,000 สาขาในไทย..ก็เป็นจุดสร้างรายได้ที่เสียงตอบรับดี

การเพิ่มขึ้นนั้น มาจากทั้งเชิงปริมาณ (เพิ่มจุดขาย) และคุณภาพ (เพิ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม) ในขณะที่ ยอดขายชาเขียวเซนย่า ในกัมพูชาก็เพิ่มขึ้นเป็น 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจาก TACC มีการตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชา

นอกจากนั้น ยังมีทีเด็ดใหม่คือ การ์ตูนกลุ่ม Sanrio ที่มีทั้ง Hello Kitty, Kerokerokeropi, Pompompurin, Bad badtzmaru, My Melody  ที่จะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ใน 7-Eleven เช่นกัน

ถึงแม้ว่าแผนดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี TACC ยังพยายามเดินหน้าติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ ให้กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศ…แต่เสี่ยปลาก็ยังคงถ่อมตัวเหมือนเดิมว่า ขอตั้งเป้าว่า รายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้

พูดแบบนี้ ไม่มีสิทธิ์ตีความเป็นอย่างอื่น…กลัวว่าราคาหุ้นที่ถูกจับตาจากทั้งขาใหญ่ และรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ…จะวิ่งเร็วแซงหน้ากำไรต่อหุ้น…เดี๋ยวพี/อีจะแพงเกิน ให้คนหมั่นไส้เอา…“ตะหาก”

หากเป็นอย่างที่ว่า ก็น่าคิด….ว่า TACC มีอะไรซ่อนไว้ให้ค้นหา…ซึ่งหากเดาไม่ผิด น่าจะเป็น “ขุมทรัพย์”

มิน่า ราคาที่วิ่งทะลุไปเหนือ 7.50 บาท เลยลงไม่ได้สักที

 

 

Back to top button