อากาศแปรปรวน!โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอะไรที่กดดันมากๆ เพราะดัชนีทำท่าเหมือนจะไปต่อ พอเอาเข้าจริงดันน็อกกลางอากาศเอาดื้อๆ พร้อมกับแสดงอาการหมดรอบอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายก็คืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสภาพจิตใจในการลงทุนเป็นหลัก รองลงมาเป็นเรื่องบรรยากาศการลงทุนเป็นใจขนาดไหน หรือแม้กระทั่งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ก็มีส่วนไม่ใช่น้อยพะยะค่ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอะไรที่กดดันมากๆ เพราะดัชนีทำท่าเหมือนจะไปต่อ พอเอาเข้าจริงดันน็อกกลางอากาศเอาดื้อๆ พร้อมกับแสดงอาการหมดรอบอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายก็คืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสภาพจิตใจในการลงทุนเป็นหลัก รองลงมาเป็นเรื่องบรรยากาศการลงทุนเป็นใจขนาดไหน หรือแม้กระทั่งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ก็มีส่วนไม่ใช่น้อยพะยะค่ะ

*เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า ดัชนีจะไปได้ไกลขนาดไหน? หรือถึงเวลาเทขายหุ้นทำกำไรหรือยัง? โดยข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวถึงในข้างต้น ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดัชนีถึงจะทะยานด้วยความมั่นคง หากมีตัวใดตัวหนึ่งเดินสวนทางกันขึ้นมา “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า ดัชนีจะแกว่งตัวตุปัดตุเป๋เหมือนกับที่เห็นในเวลานี้ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า เอาอย่างไรดี?

*ยิ่งวานนี้ดัชนีอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,537.52 จุด ลบไป 11.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้เส้นแนวรับ 10 วัน 25 วัน พร้อมใจกันปักหัวลง บวกกับสัญญาณRSI โค้งหัวลงอย่างจะแจ้ง ยิ่งเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นสุกงอมเร็วขึ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมไม่สบายใจอย่างแรง เพราะเป็นตัวแปรที่บังคับให้นักลงทุนต้องหันมาเล่นสั้นๆ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นแปรปรวนหนักขึ้นเรื่อยๆ นะจะบอกให้

*ขนาดดาวเด่นประจำตลาดหุ้นไทยอย่าง ADVANC กลายเป็นหุ้นที่โดนกระหน่ำเทขายหุ้นทิ้งแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน! บวกกับหุ้นหลุดกรอบเส้นแนวรับสำคัญลงมาอย่างง่ายดาย “โมนิก้า”  ถึงต้องมองไปที่บริเวณแนวรับ 163 บาทในทันที หลังหุ้นทิ้งดิ่งลงมาปิดที่ 173 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 3.35% ด้วยมูลค่า 3.40 พันล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนคิดไปไกลนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงกับการ take profit ของหุ้นสายการบิน AAV  จนหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 7.50 บาท ลบไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 1.34 พันล้านบาท มันเป็นผลกระทบมาจากเรื่องระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้หรือเปล่า? เพราะตัวเลขผลกระทบของการท่องเที่ยวทั้งประเทศในคราวนี้ มีตัวเลขความเสียหายในเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าคิดรวมทั้งระบบมีมากถึง 1 แสนล้านบาท เมื่อนำไปเทียบกับเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม บริเวณแยกราชประสงค์เมื่อปี 58 การท่องเที่ยวมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 5 แสนล้านบาท หุ้นเลยไปไม่ไหวไงล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งตัวเปรียบเทียบที่ดีสุดในยามที่ทุกอย่างยังไม่นิ่ง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังปูนใหญ่ SCC เพราะหลังจากไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ มาระยะหนึ่ง ล่าสุดกลับโดนถล่มเทขายแบบไม่เลี้ยง จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 520 บาท ลบไป 14 บาท ด้วยมูลค่า 1.52 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมเกิดอาการหวั่นใจเป็นธรรมดา เพราะทุกครั้งที่หุ้นขนาดใหญ่โดนถล่มเทขายทีไร มักเป็นลางบอกเหตุเป็นประจำ งานนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคะ

*ขนาดหุ้นโรงพยาบาลตัวจี๊ดอย่าง CHG ยังโดนถล่มชนิดไม่ให้โงหัวขึ้นมาเลยแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่ต้องเก็บไปคิดเป็นการบ้าน เนื่องจากหุ้นตัวนี้ใช้เวลานานถึง 4 เดือน กว่าจะขึ้นจากระดับ 2.50 บาท จนสุดท้ายขึ้นไปแตะระดับ 3.30 บาท แต่ในทางกลับกันก็ใช้เวลาแค่ 15 วัน รูดลงมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ขณะที่วานนี้หุ้นยืนอยู่ที่ 2.56 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่า 722 ล้านบาท  แถมหุ้นยังหลุดแนวรับสำคัญลงมาเสียด้วย..เจ๊งกันเป็นแถบเลยแหละ!

*TIPCO ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เดาทางยากจริงๆ พอถึงบทจะขึ้น ก็ขึ้นอย่างไม่ดูดำดูดี พอถึงบทจะลง ก็ลงแบบไม่มีเยื่อใย ล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 16.30 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่า 944 ล้านบาท พร้อมกับแสดงทิศทางอ่อนตัวอย่างชัดเจนแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า หากแนวรับ 15.50 บาทเอาไม่อยู่! ลงไปรอช้อนแถว 13 บาทได้เลยนะคะ

*ส่วนในรายของ CWT จู่ๆ ก็แสดงอภินิหารขึ้นมาแบบไม่สนใจใครทั้งสิ้น พร้อมกับไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 4.22 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 375 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของคนที่ชอบโหนกระแส ซึ่งมองเรื่องโรงไฟฟ้าทำได้จริง..ไม่ได้โม้เหมือนแต่ก่อน! แถมข้อมูลเก่าแสดงให้เห็นว่า หุ้นเคยขึ้นไปถึง 7.50 บาท หลังจากนั้นรูดลงมากอง 1.50 บาท..มันเป็นภาพที่ติดตาน้องโมจนถึงทุกวันนี้เลยแหละ

*ตบท้ายกันที่ม้าตีนปลายอย่างน้อง MAX เพื่อเป็นออปชั่นให้กับคนที่ต้องการมีหุ้นเทิร์นอะราวด์เก็บไว้ในพอร์ตของตัวเอง ล่าสุดได้ยินข่าวจากพรายกระซิบในทำนองที่ว่า เตรียมจะร่วมทุนกับEEP (เจ้าของบ่อขยะแพรกษา) ทั้งที่เพิ่งเข้าไปลงทุนใน  REP (โรงไฟฟ้าขยะ มีบริษัทแม่คือ EEP)  “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เย้ายวนใจขาลุยแบบสุดๆ เพราะมันหมายถึงพัฒนาการของบริษัทกำลังขยับขึ้นไปอีกขั้น แถมวันนี้มีการให้ราคาหุ้นลูก MAX-W2  อย่างต่ำที่ระดับ 0.05 บาท โดยหุ้นแม่ยังยืนอยู่ที่ 0.20 บาท จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆ นะจะบอกให้

Back to top button