MALEE น้ำพุ่ง
มีข้อมูลจากผู้บริหารของ MALEE ระบุว่า บริษัทสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และอาจสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ 20% ในเวลาที่เหลือของปีนี้ได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากธุรกิจ CMG ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจ Brand ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
–คุณค่าบริษัท–
มีข้อมูลจากผู้บริหารของ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ระบุว่า บริษัทสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และอาจสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ 20% ในเวลาที่เหลือของปีนี้ได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากธุรกิจ CMG ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจ Brand ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อีกทั้งบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่และออกแคมเปญที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างแบรนด์มาลีในประเทศให้แข็งแรงขึ้น ในช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 59 บริษัทได้ออกผลิตตภัณฑ์ใหม่น้ำผลไม้ 100% ผ่านแคมเปญ “The Caring Message” ความห่วงใยจากใจเกษตรกรไทยในการดูแลผลไม้อย่างดีตั้งแต่สวนถึงมือผู้บริโภคเพื่อสร้างแบรนด์มาลีเป็นน้ำผลไม้ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ และแรงสำคัญในการผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยบริษัทฯ มุ่งที่จะขยายธุรกิจ Brand ในประเทศอาเซียนที่มีการเติบโตสูง เช่น ฟิลิปปินส์ พม่า และกัมพูชา รวมถึงประเทศจีนโดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดแต่ละประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับการตอบรับเป็นที่นิยมมากขึ้น อย่างน้ำมะพร้าว และคาดยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากการส่งออก
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,761.20 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,275.89 ล้านบาท จากการปรับเพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจตราสินค้าของบริษัทฯ (Branded Business: Brand) และ ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและ รับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) ซึ่งทั้งสองธุรกิจเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 142.57 ล้านบาท หรือ 1.02 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 82.13 ล้านบาท หรือ 0.59 บาทต่อหุ้น
ด้านผลการดำเนินงานงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,317.79 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,595.40 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 252.37 ล้านบาท หรือ 1.80 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 167.17 ล้านบาท หรือ 1.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่สามารถ ควบคุมค่า ใช้จ่ายต่างๆ ได้เป็นอย่างดีทั้ง ต้นทุนการผลติ ค่าใช้ในการขาย และต้นทุนทางการเงิน
ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล. ทิสโก้ มองว่า จากแนวโน้มการส่งออกที่ยังมี upside เพิ่มขึ้นจากแบรนด์ของ MALEE เองที่เริ่มเข้าตลาดฟิลิปปินส์และการรับจ้างผลิตที่เพิ่มขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 87.50 บาทต่อหุ้น
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.บริษัท เอบิโก้ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 37,000,000 หุ้น 26.43%
2.นางกมลฉัตร จึงรุ่งเรืองกิจ 26,000,000 หุ้น 18.57%
3.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 18,310,596 หุ้น 13.08%
4.นายทรงพล เตชะกรินทร์ 4,585,600 หุ้น 3.28%
5.นางจินตนา บุญรัตน์ 3,762,950 หุ้น 2.69%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย ฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานกรรมการ
2.นาย ฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
3.นาง จินตนา บุญรัตน์ กรรมการ
4.นาย กิตติ วิไลวรางกูร กรรมการ
5.นาย พิชัย จิราธิวัฒน์กรรมการ