สินเชื่อจำบังในเศรษฐกิจจีนพลวัต 2016

ตัวเลขทางการของหนี้สินทั้งระบบของจีนในปัจจุบันที่ยอมรับกันได้คือ 28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำการสำรวจโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการระดับโลกอย่าง McKinsey & Co คิดเป็นสัดส่วน 280% ของจีดีพีประเทศจีนในปีที่ผ่านมา


วิษณุ โชลิตกุล

 

ตัวเลขทางการของหนี้สินทั้งระบบของจีนในปัจจุบันที่ยอมรับกันได้คือ 28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำการสำรวจโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการระดับโลกอย่าง  McKinsey & Co คิดเป็นสัดส่วน 280% ของจีดีพีประเทศจีนในปีที่ผ่านมา

หนี้สินทั้งระบบนี้ รวมหนี้ภาครัฐ หนี้ภาคเอกชน และหนี้ครัวเรือนมารวมกัน แต่ถ้าแบ่งออกจากกันเป็นส่วนๆ แล้ว ถือว่ายังไม่น่ากังวลมากนัก เว้นแต่ในภาครัฐ เพราะตัวเลขของหนี้สินภาครัฐนั้น มีความเชื่อและตั้งคำถามกันว่า อาจจะมากกว่าที่ระบุเป็นทางการหลายเท่า

ปีนี้เมื่อไตรมาสแรก หนี้สินภาครัฐปะทุออกมาให้น่าตื่นใจกว่าปกติ เมื่อรัฐวิสาหกิจใหญ่ของจีนที่ทำโรงงานผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักรทางด้านพลังงาน Baoding Tianwei Group Co. เป็นหน่วยงานแรกที่ออกมายอมรับว่า หมดความสามารถในการชำระหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่ครบกำหนดชำระแล้ว

โชคดีที่หนี้ดังกล่าว เป็นหนี้ที่เจ้าหนี้อยู่ในจีนทั้งหมด ไม่มีเจ้าหนี้ต่างชาติเลย ทำให้ไม่กระทบกับการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศมากนัก แต่ก็สะท้อนด้านมืดของระบบปล่อยสินเชื่อของระบบธนาคารจีนได้ดียิ่ง

ล่าสุดในเดือนสิงหาคมนี้ ธนาคารที่เคยได้ชื่อว่าเป็นธนาคารท้องถิ่นจีนที่งบการเงินแข็งแรงสุดในประเทศ ชื่อ Bank of Tangshan ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน เคยทำกำไรสุทธิเติบโตมากถึง 436% และมีการเติบโตของสินทรัพย์มากถึง 4,000% ภายใน 2 ปี ได้ถูกตรวจพบว่าได้ปล่อยเงินกู้ที่อยู่ “นอกงบปกติของธนาคาร” (off-the-book loan) ให้กับนิคมอุตสาหกรรมชื่อ Caofeidian Industrial Park แห่งเมืองถังซานในแมนจูเรีย ซึ่งปัจจุบันนิคมดังกล่าว กลายเป็นนิคมที่ร้างเกือบสิ้นเชิง

การปล่อยเงินกู้นอกงบปกติของธนาคารดังกล่าว เรียกกันว่าเป็น “สินเชื่อจำบัง” หรือ Shadow lending สะท้อนความบกพร่องของระบบธรรมาภิบาลในตลาดเงินอย่างร้ายแรง ที่นำไปสู่ความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการพังทลายของตลาดได้ง่ายมาก เพราะเป็นระเบิดเวลาด้านเศรษฐกิจการเงิน

ผลสำรวจของ Moody’s Investors Service บริษัทเรตติ้งระดับโลก พบว่าสินเชื่อจำบังดังกล่าวในจีน ได้ทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นรวดเร็วมากในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยระบุว่า 26 ธนาคารขนาดใหญ่และกลางของจีน ได้ปล่อยสินเชื่อจำบังเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวใน 2 ปีที่ผ่านมา

ในขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศก็ออกมาสำทับว่า ตัวเลขของสินเชื่อจำบังของจีนยามนี้ น่าจะอยู่ที่ระดับ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ  9% ของหนี้สินรวมทั้งระบบของประเทศจีน

นั่นหมายความว่า โอกาสที่ระบบธนาคารจีนจะเผชิญกับหนี้สูญจากลูกหนี้ที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดที่อาศัยความฉ้อฉลร่วมกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารเจ้าหนี้ เป็นไปได้สูงอย่างมาก และพร้อมจะซ้ำเติมให้ความพยายามที่จะทำให้เกิดภาวะของรัฐบาลจีนที่เรียกว่า “ซอฟต์แลนดิ้ง” ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนกำลังปรับดุลยภาพใหม่ มีโอกาสสูงจะกลายเป็น “ฮาร์ดแลนดิ้ง” ที่จะฉุดภาวะเศรษฐกิจโลกให้ทรุดลงไปอีก

ที่ผ่านมา รัฐบาลจีน และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน พยายามพร่ำบอกถึงการ “ทำความสะอาด” ปัดกวาดปัญหาที่หมักหมมมานานในระบบการเงินของจีนให้เรียบร้อย แต่การกล่าวกับการกระทำ ที่ไม่สอดรับกัน ทำให้ความคาดหวังว่าปัญหาเรื่องของหนี้เน่าในระบบสถาบันการเงินและธนาคารอันมีรากฐานจากปัญหาสินเชื่อจำบังที่เรื้อรังและฝังรากลึกมายาวนาน เริ่มรางเลือนลงไป

รอเวลาแต่ว่าเมื่อใดปัญหาหนี้เน่าที่หมักหมมจะสิ่งกลิ่นออกมาสร้างฝันร้ายในอนาคตอีกครั้ง เพราะปัญหาเรื้อรังนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์หรือตลาดหุ้น หรือระบบธนาคาร แต่เป็นมะเร็งร้ายไปทั้งกลไกเศรษฐกิจ

เครดิต ลีอองแนส์ หรือ  CLSA วาณิชธนกิจชั้นนำของโลกระบุว่า ปัญหาใหญ่ของจีนมาจากสินเชื่อจำบังที่ธนาคารต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นของรัฐ ได้ปล่อยออกไปให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่ก็เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นเป็นเจ้าของ

ความลึกลับและวิธีการแก้ปัญหาสินเชื่อจำบังอย่างลูบหน้าปะจมูกของรัฐจีนตลอดหลายปีมานี้ ทำให้ปัญหาหนี้เน่าในระบบพากันยักแย่ยักยัน เมินเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้ทำความสะอาดอย่างมีเจตนา

ในกรณีของจีน อาจจะโชคดีอยู่บ้างที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังมีเหลือเฟือ และเปิดช่องให้ทางการจีนสามารถอัดฉีดเงินเข้ามาจัดการเพิ่มทุนให้กับสถาบันการเงิน หรือ ตั้งสถาบันรับซื้อหนี้เสียไปกองรวมกันไว้ (bad banks) เปิดช่องทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินยังคงสามารถล้างผลาญและทำหน้าที่หล่อเลี้ยงกลไกเศรษฐกิจต่อไปได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ตลอดไปไร้ขีดจำกัด

การกล่าวถึงสินเชื่อจำบังในจีนนั้น เป็นมากกว่าปัญหา “ลุงโง่ย้ายภูเขา” ในนิทานเปรียบเปรยเก่าแก่ของจีนหลายเท่า จะไม่ทำก็เป็นมะเร็งร้าย  แต่การลงมือกระทำก็ต้องมีความขัดแย้งทางการเมืองหลายระดับที่เป็นระเบิดเวลาตามมา

ปัญหาสินเชื่อจำบังของจีน จึงเปรียบได้กับไฟสุมขอนที่น่ากังวล และจะยังอยู่คู่กับเศรษฐกิจจีนอีกนานหลายปี และในเฉพาะหน้านี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีทางออกอย่างไร

 

Back to top button