ต่างชาติเก็บแบงก์ลูบคมตลาดทุน
หุ้น 4 แบงก์ใหญ่วานนี้พาเหรดขึ้นกันยกแผง
ธนะชัย ณ นคร
หุ้น 4 แบงก์ใหญ่วานนี้พาเหรดขึ้นกันยกแผง
ทั้ง BBL-KBANK-SCB และ KTB
สังเกตว่า ระยะหลัง นักลงทุนต่างชาติเข้าเก็บหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มากกว่าพลังงาน
หากจำกันได้ นักลงทุนต่างชาติเข้าเก็บหุ้นในกลุ่ม ปตท. เช่น PTTEP ตั้งแต่ราคา 40 บาทต้นๆ เก็บมาเรื่อยๆ รวมถึงหุ้นพลังงาน หุ้นน้ำมันตัวอื่นๆ ด้วย
ผ่านมาจนป่านนี้ ไม่รู้ขายออกไปบ้างหรือยัง
หรืออาจะมีทำกำไรระหว่างทางไปบ้าง เพราะนักลงทุนเมื่อมีกำไรก็ต้องขาย ไม่ได้ทำงานมูลนิธิซักหน่อย
ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารก็เช่นกัน
ในปี 2558 ราคาหุ้นแบงก์ใหญ่ปรับลงไปกว่า 20%
บางตัวลงไป 25% เลยนะ
พอมาในปีนี้ ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัว ตั้งสำรองหนี้ฯ กันลดลง ทำให้กำไรค่อยๆ เริ่มกลับมา
กสิกรไทยหรือ KBANK นั้น ราคาหุ้นเมื่อสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 150.50 บาท
ส่วนวานนี้ปิดตลาด 198 บาท หรือเพิ่มขึ้นมาแล้วเกือบๆ 32%
แต่เท่าที่ดูบทวิเคราะห์ของโบรกฯ ก็ยังแนะนำให้ “ซื้อ” กันอยู่ มีราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ย 200 บาทขึ้น ++
แต่หากดูจากราคาปิดวานนี้ กับราคาเป้าหมาย 200 บาทต้นๆ ก็อาจทำให้อัพไซด์นั้นมีจำกัด
แต่บางทีมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ อาจมองเห็นอะไรในอนาคตบางอย่าง จึงยังเข้ามาเก็บหุ้นแบงก์ เช่น KBANK อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
BBL เป็นหุ้นขนาดใหญ่อีกตัวที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558
แต่หากดูจากจำนวนเปอร์เซ็นต์แล้วยังถือว่าไม่มาก เพราะขึ้นมาเพียง 13%
มาดูแบงก์ไทยพาณิชย์ หรือ SCB กันบ้าง
วานนี้ราคาหุ้นปิด 158.50 บาท หากเทียบกับสิ้นปี 2558 ราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 32% หรือเท่าๆ กันกับ KBANK
ส่วนแบงก์ใหญ่อีกแห่งคือ KTB ราคาหุ้นปรับขึ้นจากสิ้นปี 2558 มาแล้ว 13% ซึ่งก็เท่ากับ BBL
มองการปรับขึ้นของราคาหุ้น 4 แบงก์ใหญ่แบบนี้แล้ว ถือว่ามีนัยสำคัญพอสมควร โดยเฉพาะหุ้น KBNAK และ SCB ที่กระโดดขึ้นมาอย่างมาก
วานนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ระบุถึงตัวเลขสินเชื่อ 7 เดือนแรกครับ
ปรากฏว่า สินเชื่อเติบโตในอัตราชะลอตัว
หรือประมาณ 2.02% แต่หากเทียบกับสิ้นปี 2558 สินเชื่อจะติดลบอยู่ 0.46%
แม้จะดูเหมือนว่า สินเชื่อน่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ดี จากผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่ยื่นขอสินเชื่อเข้ามาต่อเนื่อง รวมถึง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ
ทว่า อีกด้านหนึ่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ก็มีการชำระคืนเงินกู้เข้าต่อเนื่องเช่นกัน เพราะหันไประดมทุนด้วยวิธีการออกหุ้นกู้มากขึ้น
ตัวเลขก็เลยไม่ค่อยขยับไปไหนซักเท่าไหร่
ส่วนตัวเลขคาดการณ์ การขยายตัวของสินเชื่อปีนี้ ถูกมองว่าจะอยู่ที่ 4%
ตัวเลขนี้ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า ช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนกว่า จะเข้าเป้าหรือไม่
การเติบโตของธุรกิจธนาคารนั้น เขาก็จะวัดกันจากการเติบโตของสินเชื่อนี่แหละ
แม้แบงก์จะมีรายได้ทางด้านอื่นๆ เข้ามามากขึ้น ทั้งขายประกัน กองทุน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ แต่รายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ ก็ยังต้องคือรายได้หลักในการสร้างกำไร
ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคาร จึงถือว่าปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก
บทวิเคราะห์ของหลายโบรกฯ เริ่มเตือนบ้างแล้ว
ราคาหุ้นมีอัพไซด์จำกัด
และไม่เฉพาะหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เท่านั้น
ยังรวมไปถึงหุ้นขนาดกลางในกลุ่มเช่าซื้อ ทั้ง KKP TCAP และ TISCO ที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติก็ทยอยเก็บสะสมมาเรื่อยเช่นกัน
เข้าใจว่า ต่างชาติเก็บหุ้นแบงก์เที่ยวนี้
น่าจะใกล้หมดรอบแล้วล่ะ