AQUA บนเกมซื้อหุ้นคืนแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ปฏิบัติการซื้อหุ้นคืน ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับตลาดหุ้น แต่สำหรับบางบริษัทที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา


ปฏิบัติการซื้อหุ้นคืน ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับตลาดหุ้น แต่สำหรับบางบริษัทที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา        

กรณีของบริษัทโฮลดิ้งอย่าง อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เป็นรายล่าสุดที่ต้องกล่าวถึง

จันทร์ที่ 29 สิงหาคม AQUA แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 220 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 275 ล้านหุ้น (…คำนวณง่ายๆ เฉลี่ยแล้วหุ้นละประมาณ 0.80 บาท….) คิดเป็นประมาณ 5.99% ของหุ้นทั้งหมด โดยจะเข้าซื้อในตลาดกินเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ช่วงเวลาวันที่ 12 กันยายน 2559 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2560

วัตถุประสงค์ในการซื้อหุ้นคืน AQUA อ้างตามสูตรว่า เป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้มีประสิทธิภาพ และทำให้อัตราส่วนทางการเงิน เช่นอัตราผลตอบแทนแก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และ อัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปรับตัวดีขึ้น

เหตุผลที่สำคัญสุด ซึ่งคณะกรรมการนำมาอ้างคือ ก่อนที่จะมีมตินี้ ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี…ซึ่งไม่ถูกต้องเท่าใดนัก เพราะข้อเท็จจริง บุ๊คแวลูของบริษัทล่าสุดเมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ อยู่ที่ 0.69 บาท

การซื้อหุ้นคืนนี้  AQUA ระบุว่า หลังจากพ้นเวลาซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 6 เดือน – 3 ปี  จะมีการนำเอามาขายในตลาดตามระเบียบ

หากมองจากนวัตกรรมซื้อหุ้นคืนรอบนี้ คือผลงานโบว์แดงชิ้นแรกภายใต้การบริหารกิจการใต้กำมือของรักษาการซีอีโอคนปัจจุบันของ AQUA คือ นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร

ปฏิบัติการซื้อหุ้นคืนของ AQUA ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ถือว่าผิดปกติหรือครอบงำราคาหุ้น เพราะนี่คือปฏิบัติการคืนกำไรนอกเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นนอกฤดูกาล โดยไม่ต้องรองบกำไรขาดทุน หรือ ประกาศจ่ายปันผล  และ….ไม่เข้าข่ายสร้างราคาหุ้นให้ คนมองโลกในแง่ร้ายที่ ก.ล.ต. จ้องหาความผิด

การซื้อหุ้นคืน เปรียบได้กับการให้รางวัลผู้ถือหุ้น ในกรณีที่บริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องล้นบริษัท แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร..เพราะยังไม่มีแผนการลงทุนใหม่ๆ…แต่ผู้บริหารเห็นว่าบริษัทตัวเองมีมูลค่าต่ำกว่าที่เป็นจริงมาก ก็เอามาซื้อหุ้นบริษัทตัวเอง ผลที่ได้คือจะทำให้หุ้นที่อยู่ในตลาดลดลงชั่วคราวระยะหนึ่ง เมื่อนำมาหารเป็น EPS นักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ก็ได้ผลตอบแทนมากขึ้น

จุดแปลกของ AQUA อยู่ตรงที่ว่า ตามปกติ การซื้อหุ้นคืน จะไม่กระทำในช่วงเวลาที่ตลาดเข้าสู่ภาวะกระทิงหรือเป็นขาขึ้น แต่ใช้เมื่อตลาดเป็นขาลง และบริษัทที่มีผลประกอบการดีเยี่ยม หรือผู้บริหารมั่นใจว่าดีเยี่ยม ต้องการรักษามูลค่าผู้ถือหุ้น ไม่ให้ไหลเลื่อนไปตามกระแสตลาดขาลงเกินขนาด ก็ต้องงัดเอามาใช้เพื่อแตะเบรกและกอบกู้ภาพลักษณ์ด้านราคา รวมทั้งสร้างความภักดีต่อผู้ถือหุ้นเอาไว้

ในกรณีของ AQUA นอกจากจะแหวกจารีตของเงื่อนเวลาซื้อหุ้นคืนแล้ว และไม่ได้กระทำตามเกณฑ์ทั่วไปที่จะซื้อเมื่อหุ้นต่ำกว่าบุ๊คแวลู….ก็มีข้อน่าสังเกตคือ บริษัทนี้ มีรายได้ไม่มาก แต่อัตรากำไรสุทธิสูงตามกติกาไม่มีผิดเพี้ยน

แม้รายได้ต่อปีที่ผ่านมาของ AQUA จะอยู่ที่ระดับ 700 ล้านบาทเศษ แต่อัตรากำไรสุทธิกลับสูงลิ่วที่ระดับ 38-45% มาโดยตลอด….ส่วนหนึ่งเพราะความที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งมีบริษัทย่อยในร่มธง 3 ธุรกิจที่ผลตอบแทนดีมาตลอด  ได้แก่ บริษัท อควาแอด จำกัด (AA) ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 100% ทำธุรกิจป้ายโฆษณากลางแจ้ง  บริษัท ไทย คอนซูเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด (TCDC) บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 96.13% ทำธุรกิจโกดังสินค้าให้เช่า และบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 38.40% ทำธุรกิจพลังงานและโรงพิมพ์

ในกรณีซื้อหุ้นคืน บริษัทที่จะมีคุณสมบัติใช้กลยุทธ์นี้ ต้องมีครบ 4 ประการ คือ

1) มีผลประกอบการกำไร และมีกำไรสะสมมากพอสมควร โดยจะใช้เงินไม่เกินกำไรสะสม โดยบริษัทต้องกันกำไรสะสมไว้เป็นเงินสำรอง เท่ากับเงินที่ซื้อหุ้นคืน จนกว่าจะมีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้หมด หรือนำไปลดทุน

2) มีสภาพคล่องส่วนเกิน โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ภายใน 6 เดือนข้างหน้าว่า ถ้านำเงินมาซื้อหุ้นคืนแล้ว จะไม่กระทบกับการชำระหนี้ของบริษัท

3) ไม่ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (ไม่น้อยกว่า 15% ของทุนชำระแล้ว และมีจำนวนไม่น้อยกว่า 150 ราย)

4) หุ้นที่ถูกซื้อคืนจะไม่ถูกนับเป็นองค์ประกอบในการประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน และสิทธิในการรับเงินปันผล

AQUA คุณสมบัติมีครบ แม้จะไม่มาก เพราะกำไรสะสมที่มีเพียงแค่ 523.34 ล้านบาท เมื่อสิ้นงวดไตรมาสสองของปีนี้ จากกำไรไตรมาส 2 มากถึง 92 ล้านบาท โตขึ้น 38% จากปีก่อน โดยครึ่งแรกของปีกำไร 172 ล้านบาท ทำให้การใช้เงินสดเพื่อซื้อหุ้นคืนที่มากถึง 40% ของกำไรสะสม …ไม่มากเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดที่มีมากกว่า 900 ล้านบาท…. ก็ถือว่า น่าจะส่งผลต่อสภาพคล่องพอสมควร…แม้ข้อเท็จจริงรูปธรรมของการซื้อหุ้นคืนบริษัทต่างๆ ในอดีต เมื่อถึงเวลาจริง มักซื้อหุ้นได้ไม่ครบตามเป้า เพราะราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเหนือราคาเป้าหมาย ทำให้ต้องหยุดการซื้อลง

มีตัวอย่างกรณีของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เมื่อกลางปี 2558 ประกาศทุ่มเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อให้ราคาหุ้นที่ร่วงลงหนัก จนต่ำระดับใต้ 20 บาท (ต่ำสุดในรอบ 7 ปี) ให้ฟื้นคืน ปรากฏว่าพอประกาศไป…กลับซื้อไม่ได้เลยเพราะราคาวิ่งขึ้นมาเหนือ 20 บาทเสียก่อน ..เลยไม่ได้ซื้อคืนแม้แต่หุ้นเดียว

กรณีของ AQUA เพียงแค่ประกาศว่าจะซื้อหุ้นคืน ราคาหุ้นก็กระโดดพรวดเดียวกว่า 3% ในวันที่ประกาศออกมา และล่าสุด ยืนเด่นเหนือ 0.90 บาท ก็ถือว่ามีผลทางจิตวิทยาไม่น้อย

โจทย์ที่นักลงทุนยังไม่ได้ตอบกับตัวเองในการเข้าไล่ราคาซื้อหุ้น AQUAในสัปดาห์นี้คือ ราคาที่บริษัทจะซื้อคืนที่เฉลี่ย 0.80 บาท นั้น ต่ำกว่าราคาตลาดล่าสุดไม่น้อย…ซื้อมาแล้วจะยอมขายขาดทุนได้หรือไม่..และบริษัทจะยอมซื้อคืนในราคาที่เกินเป้าหมายที่ประกาศออกมาหรือ

ตอบโจทย์กันเอาเองละกัน… “อิ อิ อิ”

Back to top button