BKDนอนเฝ้าปลากระป๋องแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

เจ๊ฉลาม หรือ นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ แห่ง บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKDแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ และศักยภาพใหม่ของการเป็นนักธุรกิจระดับ “หญิงฉลามขั้นเทพ” เข้าไปทุกขณะ


เจ๊ฉลาม หรือ นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ แห่ง บริษัท บางกอก เดค-คอน  จำกัด (มหาชน) หรือ BKDแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ และศักยภาพใหม่ของการเป็นนักธุรกิจระดับ “หญิงฉลามขั้นเทพ” เข้าไปทุกขณะ

นอกเหนือจากการทำธุรกิจรับตกแต่งภายในที่โดดเด่นแล้ว ยังพัฒนาศักยภาพเดิมในเรื่องของ นักดู “ฮวงจุ้ย” ในการค้นหาที่ดินแปลงงามๆ ในเขตที่มีโอกาสทำกำไรในอนาคตเข้ามาสร้างกำไรพิเศษในพอร์ตการลงทุนของบริษัท ไม่แพ้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเรียกร้องทักษะทางด้านนี้โดยตรง

ที่พัฒนามากกว่าเดิมอย่างก้าวกระโดด ไม่รู้เป็นเพราะการเข้ามาเป็นผู้บริหารกิจการบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯหรืออย่างไร เจ๊ฉลาม ได้มีโอกาสพาตัวเองเข้าไปกระแทกไหล่กับบรรดา “ขาใหญ่” ในวงการหุ้น จนกระทั่งปรากฏชื่อร่วมในขบวนการนักลงทุนระดับ “วีไอ ใส่สเก็ต” ที่เข้าถือหุ้นที่ออกมาขายแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อระดมทุนของบริษัทในตลาดหุ้นหลายแห่งอย่างประปราย

นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะล่าสุด…เจ๊ฉลามพัฒนาความสามารถในเรื่องการเงินและบันทึกบัญชีไปอีกขั้นหนึ่ง

รู้รอบ รู้ลึก อย่างนี้…สมกับฉายายิ่งยวด

เรื่องที่ดินผืนงาม ที่ BKD ซื้อมาถือไว้ รวมจำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวม 19-2-81 ไร่ (7,881 ตารางวา) ตั้งอยู่ที่ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท และเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นพากันตั้งตารอคอยกันหลายเดือน อยู่ที่ว่า…จะสร้างรายได้ในอนาคตอย่างไร เป็นปริศนามาหลายเดือนว่า ระหว่างการขายออกไป เอาเงินก้อน กับ การนำมาตั้งบริษัทร่วมทุนทำอสังหาริมทรัพย์ …อย่างไหนกำไรดีกว่ากัน

ล่าสุด คำตัดสินออกมาแล้ว เมื่อ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติให้ดำเนินการขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้ง 3 แปลง โฉนดเลขที่ 165006, 249911 และ 249912 ในราคาเสนอขายอยู่ที่ 487.86 ล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์)

หากคิดเทียบกับต้นทุนที่ดินที่ซื้อมาหลายปีก่อน ประมาณ 80 ล้านบาท จะทำให้การขายที่ดินนี้ มีกำไรพิเศษกลับเข้า BKD ที่ประมาณเกิน 400 ล้านบาทเล็กน้อย

เป็นกำไรที่มากกว่ากำไรตลอดมาแต่ละปีของบริษัท ที่ไม่เคยมีกำไรปกติเกินกว่า 200 ล้านบาทเลย

ไม่ต้องเหนื่อยยากเหมือนธุรกิจหลักที่รับออกแบบ และตกแต่งภายในของ BKQ ที่กว่าจะได้เงินก็แสนสาหัส

งานนี้ ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนมีสิทธิ์ฝันถึงเงินปันผลล่วงหน้างามๆ ได้ตามสิทธิ์พึงมีพึงได้

ไม่น่าประหลาดใจที่มีข่าวขายที่ดินออกมา เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นของ BKD เปิดกระโดดไปเกือบทะลุ 4.00 บาทเลยทีเดียว สูงสุดในรอบ 10 เดือนเลยทีเดียว

ครั้งสุดท้ายที่นักลงทุนได้เห็นราคาหุ้น เหนือ 4 บาทคือ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 แต่หลังจากนั้นมีอันร่วงลงไปซึมยาวแน่นิ่งที่ระดับ 3.20-3.30 บาทยาวนาน ทั้งที่นักวิเคราะห์ที่หลงเสน่ห์ในตัวเจ๊ฉลาม พากันเชียร์ออกนอกหน้าให้ซื้อ เพราะความซื่อตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัดของเจ๊ฉลาม ที่อยู่ดีๆ ก็บันทึกตัวเลขหน่วยราชการที่เข้าไปรับงานตกแต่งให้ “ดึงเช็ง” ยื้อเวลาจ่ายเงิน ทำให้ต้องตั้งสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญอีกบานเบอะเล่นเอากำไรลดฮวบฮาบ ราคาหุ้นเลยจอดไม่ต้องแจว

เพิ่งจะมาขยับตัวเพิ่มขึ้นมา ก็ตอนที่มีข่าวเรื่องที่ดินนี่แหละ

เพียงแต่มติการขายที่ดิน (ไม่รู้ใครซื้อรอบนี้) ของ BKD บรรดานักลงทุนอย่าเพิ่งดีอกดีใจไป เพราะว่า แม้จะขายได้ แต่ก็ยังไม่มีการบันทึกในปีนี้ เนื่องจากเงื่อนไขการขายคือวางมัดจำบางส่วน ในการจะซื้อจะขาย…แล้วไปส่งมอบเงินและที่ดินกันในเดือนเมษายน 2560 หรือ ไตรมาส 2 ของปีหน้าโน่นเลย

มิหนำ เจ๊ฉลามยังแสดงเขี้ยวเล็บเพิ่มเติมว่ายาวกว่าเดิมหลายเท่า บอกว่า ถ้า BKD ไม่ได้ลงทุนทำอะไรเพิ่มเติม จะจ่ายปันผลพิเศษจากกำไรขายที่ดินให้นักลงทุนที่ถือหุ้น

หมายความว่า แทงกั๊ก…จ่ายปันผล หรือ ไม่จ่าย ก็ได้

แล้วแต่เจ๊ฉลามจะสบายใจ

แมงเม่าที่คิดจะกระโจนใส่หุ้น BKD ที่ใกล้ 4.00 บาท ถึงกับเบรกกันหัวทิ่มวานนี้ เมื่อเจอเงื่อนไขดังกล่าว

มีอย่างที่ไหน…บอกชัดเจนว่า ในงบปี 2558 นี้ ได้แต่ “ปันผลปกติ” เท่านั้น …อย่าหวังได้แอ้มปันผลพิเศษร่วม 400 ล้านบาทที่เห็นเหนาะๆ

งานนี้แมงเม่าหลายคนบ่นว่า งานนี้ เจ๊ฉลามทำเอาผู้ถือหุ้น BKD กลายเป็น… “สุนัขเห็นปลากระป๋อง….” เลยทีเดียว (ฮา)

ยังไงเสียก็ต้องรอไปปีหน้า…ส่วนจะเป็นช่วงไหน หรืออาจจะไม่ได้เลย …ต้องแล้วแต่ความกรุณาของเจ๊ฉลาม

“อิ อิ อิ”

 

Back to top button