PIMO ยังแจ๋ว
PIMO เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ โดยมีโครงสร้างรายได้หลักกว่า 47% มาจากมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ รองมาเป็นมอเตอร์ขนาดเล็ก อย่างเครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สระน้ำ และสปา ที่มีสัดส่วนรายได้ 41% ส่วนมอเตอร์กำลังซึ่งใช้ในงานเกษตรและอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 12%
–คุณค่าบริษัท–
บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ โดยมีโครงสร้างรายได้หลักกว่า 47% มาจากมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ รองมาเป็นมอเตอร์ขนาดเล็ก อย่างเครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สระน้ำ และสปา ที่มีสัดส่วนรายได้ 41% ส่วนมอเตอร์กำลังซึ่งใช้ในงานเกษตรและอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 12%
ทั้งนี้ PIMO มีจุดเด่นที่สามารถผลิตแบบ OEM ที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง มีการผลิตที่ได้มาตรฐาน และผลิตได้ตาม Spec ที่ลูกค้าต้องการ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มร้านค้าส่งและปลีกทั้งแบบดั้งเดิมและ Modern Trade ตลอดจนลูกค้าจากต่างประเทศ
ด้วยมอเตอร์ที่มีคุณภาพ บริษัทจึงยังคงรักษาฐานลูกค้ารายเก่าอย่างรายใหญ่และลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามา จึงทำให้บริษัทยังคงรักษาผลงานได้ดี โดยเฉพาะส่วนของรายได้และกำไรสุทธิที่ยังเติบโตอย่างดี
โดยเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 143.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 131.81 ล้านบาท ซึ่งหลักใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายมอเตอร์ปั๊มบ้านแก่ลูกค้ารายใหญ่ และเพิ่มขึ้นของยอดขายมอเตอร์ปั๊มและสปาแก่ลูกค้าต่างประเทศรายใหม่ด้วย ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12.31 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6.77 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 294.12 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 246.59 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 24.41 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.85 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น
สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น ในเรื่องของฐานะทางการเงินที่ยังแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 298.31 ล้านบาท นำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนที่อยู่ราว 137.02 ล้านบาท ซึ่งจะได้ค่า Current ratio อยู่ที่ระดับ 2.18 เท่า นับว่า บริษัทยังมีสภาพคล่องด้านทางการเงินมากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจจะเกิดทุนจม
สำหรับด้านหนี้สินของบริษัทถือว่าไม่น่าเป็นห่วงเลย เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแล้วเพียง 149.94 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในส่วนของผู้ถือหุ้นที่มากถึง 294.07 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.51 เท่า ถือว่า บริษัทยังปลอดโปร่งเรื่องหนี้สิน ซึ่งไม่น่ากังวล
อีกทั้ง นักวิเคราะห์บล. เออีซี เริ่มต้นสนใจหุ้น PIMO หลังเห็นการกลับตัวของกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 จึงคาดช่วงครึ่งหลังของปี 2559 กำไรจะยังโตเด่นจากงวดเดียวกันของปีก่อนต่อไปได้อีก หลังลูกค้ารายใหญ่ยังมีออเดอร์ปั๊มน้ำให้ต่อเนื่อง บวกกับ PIMO มีแผนทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ (มาร์จิ้นสูงกว่าไทย 10-15%) อีกทั้งยังมีตลาดใหม่อย่างกลุ่ม CLMV ที่มีศักยภาพโตดีและเน้นปริมาณสั่งซื้อซึ่งจะทำให้เกิด Economies of Scale ตามมา
นอกจากนี้ในเดือน ก.ย.59 PIMO ยังเตรียมเซ็น MOU กับพันธมิตรในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มไลน์ผลิตมอเตอร์รูปแบบใหม่ ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ซึ่งคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ส่งผลให้คาดปี 2559 PIMO จะมีกำไรสุทธิ 42.4 ล้านบาท พลิกกลับมาโต 75.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโตต่อ 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2560
PIMO จัดเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมคาดให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนปีละ 1.8% จึงยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.90 บาทต่อหุ้น
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.น.ส.นรีรัตน์ อิทธิโรจนกุล 64,966,700 หุ้น 12.49%
2.น.ส.ปรางวดี อิทธิโรจนกุล 64,966,700 หุ้น 12.49%
3.น.ส.สิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล 64,966,700 หุ้น 12.49%
4.น.ส.ชิดชนก อิทธิโรจนกุล 64,966,700 หุ้น 12.49%
5.นายวสุพล อิทธิโรจนกุล 64,966,600 หุ้น 12.49%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย เสถียร ภู่ประเสริฐ ประธานกรรมการ
2.นาย วสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ
3.นาย วสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการ
4.นาย วิรัช ชาญพานิชย์ กรรมการ
5.นางสาว สิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล กรรมการ