หลุดเส้น 25 วัน..ชักเริ่มเสียว
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับเส้น 25 วันตรงบริเวณ 1,530 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก so sadเพราะทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
โมนิก้าและทีมงาน
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับเส้น 25 วันตรงบริเวณ 1,530 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก so sadเพราะทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
*เนื่องจากอาการทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วงในเที่ยวนี้ มันสะท้อนให้นักเล่นได้รู้ว่า เมื่อเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นเหมือนกับสิ่งที่นักลงทุนสถาบันคิด ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นอีกต่อไป ดัชนีถึงรูดลงมาปิดที่ 1,521.48 จุด ลบไป 18.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.17 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า การเล่นรอบกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้หุ้นบลูชิพยังติดอยู่ในวังวนเดิมอีกเจ้าค่ะ
*สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับเริ่มฉุกคิดตั้งแต่วันนี้ เพื่อทำให้การลงทุนมีความคล่องตัวมากขึ้นก็คือ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ยังเป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมจริงไหม? หรือแม้กระทั่งหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กยังเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่เหล่านักเล่นต้องรีบกระโจนใส่หรือเปล่า? มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องมองให้ขาด และต้องเข้าทำให้ทันจังหวะดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะค้างเติ่งอยู่บนดอยนะจะบอกให้
*ตัวอย่างเรื่องดังกล่าวดูได้จาก KBANK กับ SCB หลังจากทั้งคู่ทะยานขึ้นไปทำยอดใหม่ในช่วงต้นเดือน ส.ค. หลังจากนั้นก็แกว่งตัวออกด้านข้างประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจะทิ้งตัวลงรวดเร็วนั้น มันเป็นจังหวะที่ต้องเลือกกันเอาเองว่า “ถือต่อ” หรือ “ขายทิ้ง” ซึ่งเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของคนที่มีหุ้นในพอร์ต และคนที่ไม่มีหุ้นในพอร์ต แต่สิ่งที่ต้องคิดให้มากไปกว่านั้นก็คือ ทั้งสองตัวหลุดแนวรับแบบนี้..หากวันนี้เด้งขึ้นไม่ได้ แล้วจะไปรับหุ้นตรงไหนล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ PTT อุตส่าห์ประคองตัวรักษาเส้นแนวรับ 10 วัน กับ 25 วัน มาระยะหนึ่ง แต่เมื่อวันศุกร์กลับโดนเทขายแบบถล่มทลาย จนหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาค่อนข้างลึก ก่อนจะปิดที่ระดับ 335 บาท ลบไป 10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการวัดกำลังภายในอย่างหนึ่ง หากวันนี้ยังยืนปิดเหนือแนวรับเส้น 75 วันตรงบริเวณ 322 บาทได้อย่างเหนียวแน่น…เด้งกลับแรงแน่นอนเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนหันมามอง CPN เป็นรายถัดมา เพราะเป็นหุ้นที่รักษาทรงของตัวเองได้ค่อนข้างดี แถมหุ้นยังเกาะแนวรับเส้น 10 วัน 25 วัน และ 75 วัน ภายในกรอบ 57-60 บาทอย่างเหนียวแน่น จึงน่าจะเป็นโอกาสทองของการลงทุน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับคิดหาแนวทางการเข้าลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้วางโพสิชั่นในการลงทุนเที่ยวนี้ถูกตำแหน่ง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 58.25 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท น่าสนใจไหมล่ะค่ะ
*ส่วนตัวที่เสียทรงอย่างชัดเจน แถมโปรเจ็กต์ก็ฝันสลายเป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” คงมอบตำแหน่งดังกล่าวให้กับ AAV ซึ่งล่าสุดอ่อนตัวลงมาปิดที่ 7.20 บาท ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้กระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็ว หลังหุ้นโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง บวกกับเส้นแนวรับ 10 วัน กับ 25 วันก็พาดผ่านบนหัวแท่งเทียนแบบจังๆ สงสัยจะขึ้นยากเจ้าค่ะ
*ส่วนหุ้นที่รักษาทรงได้ค่อนข้างดี และยังพยายามยกตัวสูงขึ้น “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น EPG หลังแนวรับเส้น 10 วัน 25 วัน ช้อนอยู่ใต้แท่งเทียน แถมยังผงกหัวตั้งชัน 45 องศา มันตีความได้ว่า หุ้นกำลังพยายามเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม จึงไม่ต้องแปลกใจที่วันศุกร์หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.30 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 960 ล้านบาท เพราะปัจจัยมันเอื้อจริงๆ เจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ RJH หลังจากเจอเรื่องซุบซิบนินทาหลังไมค์มาพักหนึ่ง ล่าสุดดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงเรื่องมโนเสียมากกว่า หุ้นเลยเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 19.80 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 ล้านบาท พร้อมกับทำให้เรื่อง “เขย่าเอาของ” ไม่มีใครสนใจอีกต่อไปนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ที่สังคมชาวหุ้นรับรู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีใครยอมปริปากถึงสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้ถึงต้องหันมามองความจริงของราคาเป้าหมาย 24 บาท มันคิดจากอะไร!…หากไม่มีใครตอบ เดี๋ยวน้องโมตอบให้ก็ได้ค่ะ
*สำหรับในรายของ FSMART ยังคงเป็นเสือซุ่มที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหลายครั้งที่ตลาดหุ้นออกอาการเป๋ไม่เป็นท่า มักเห็นหุ้นตัวนี้ฉายแววดาวเด่นขึ้นมาเป็นประจำ ล่าสุดชาวบ้านชาวเมืองเขาลบกันแดงเถือก พี่ท่านกลับวิ่งขึ้นมาปิดที่ 16.10 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าตามไปดูเหลือเกิน เพราะยอดเดิมอยู่ที่ 17.50 บาทน่ะสิ
*เช่นเดียวกับหุ้น ALT เห็นเงียบๆ เหมือนไม่มีนัยสำคัญอะไรเกิดขึ้น แต่พอเผลอทีไรมีแรงซื้อเข้ามาไล่เก็บหุ้นเป็นประจำ ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ ซึ่งหุ้นโดนกดลงมาทำราคาต่ำสุดของวันที่ 8.25 บาท แต่หลังจากนั้นถูกดันกลับขึ้นมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 8.75 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า กำลังภายในมีอย่างล้นเหลือนะจะบอกให้
*ส่วนรายที่อ่อนยวบจนน่าสงสัย และยังเป็นหุ้นที่ถูกร้องเรียนเข้ามาถี่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างหุ้น GREEN หรือชื่อเดิม ACD มันเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” ต้องเข้าไปเผือกอย่างเร่งด่วน เพราะได้ข่าวแว่วมาจากคนข้างในว่า มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน แถมตัวบริษัทยังมีผลขาดทุนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี จึงอยากให้ทางการเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้สักหน่อย..หากไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เดี๋ยวน้องโมส่งเอกสารเป็นข้อๆ ไปให้ดูนะตัวเอง!