ขึ้นเพื่อลง??โมนิก้าและทีมงาน
*หลังจากชายตามองกระดานหุ้นวานนี้ “โมนิก้า” ได้เห็นการสลับบทบาทของผู้เล่นรายต่างๆ เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกแปลก หรือกังวลใจอะไรขึ้นมาเท่าไหร่นัก เพราะเป็นเรื่องที่เคยเม้าท์ให้ฟังตั้งแต่วันก่อนแล้วว่า การที่ดัชนีหลุดเส้นแนวรับสำคัญลงมาง่ายๆ เป็นการส่งสัญญาณให้แฟนคลับได้รู้ว่า อาการรีบาวด์เพื่อลงจะเกิดขึ้นบ่อยมาก และการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,496.90 จุด บวกไป 4.38 จุด ด้วยมูลค่า 5.07 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อยนะคะ
ขึ้นเพื่อลง??
*หลังจากชายตามองกระดานหุ้นวานนี้ “โมนิก้า” ได้เห็นการสลับบทบาทของผู้เล่นรายต่างๆ เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกแปลก หรือกังวลใจอะไรขึ้นมาเท่าไหร่นัก เพราะเป็นเรื่องที่เคยเม้าท์ให้ฟังตั้งแต่วันก่อนแล้วว่า การที่ดัชนีหลุดเส้นแนวรับสำคัญลงมาง่ายๆ เป็นการส่งสัญญาณให้แฟนคลับได้รู้ว่า อาการรีบาวด์เพื่อลงจะเกิดขึ้นบ่อยมาก และการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,496.90 จุด บวกไป 4.38 จุด ด้วยมูลค่า 5.07 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อยนะคะ
*ที่สำคัญการที่รายย่อยสุดเลิฟของ “โมนิก้า” กลายเป็นพระเอกโกยหุ้นเข้าพอร์ตอย่างหนักหน่วงกว่า 1.90 พันล้านบาท ตามด้วยกองทุนตัวแสบที่ซื้อเข้ามาแก้เขินราว 476.61 ล้านบาท โดยมีปอบผีฝ้าขายออกมาถ่วงดัชนี 1.56 พันล้านบาท และฝรั่งหัวทองสลับดำขายออกมาบ้างกว่า 821.22 ล้านบาท ทำให้เดี๊ยนอยากป่าวประกาศถึงมิตรรักแฟนเพลงให้ทราบโดยทั่วกันว่า เมื่อมีกำไรให้รีบขายไปก่อน สถานการณ์แบบนี้ต้องเล็กสั้นขยันซอยเท่านั้นนะเจ้าคะ
*นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า การปิดบวกวานนี้เป็นเพียงการเด้งกลับเบาๆ หลังผู้ไม่ประสงค์ดีปล่อยข่าวชั่วออกมาถล่มตลาดหุ้นเกือบ 30 จุด แถมยังไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างจริงๆ จังๆ จากเหล่ากองทุน ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการขายปรับพอร์ตออกมาให้เห็นแบบนี้.. นั่นหมายถึงความไม่แน่นอนยังคงเกิดขึ้นได้เสมอ “โมนิก้า” จึงอยากให้รายย่อยรู้จักจับจังหวะเข้าออกให้เป็นยังไงล่ะค่ะ
*วันนี้ขอเริ่มต้นกันที่ WIIK หลังจากโดนเทขายอย่างหนักหน่วงมา 5 วันติด ก็ถึงเวลาผงกหัวขึ้นกันเสียที ซึ่งเปรียบเสมือนกับ “ฟ้าหลังพายุฝนถล่ม ย่อมเต็มไปด้วยความสดใส” วานนี้หุ้นถึงวิ่งขึ้นปิดที่ 4.40 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือ 12.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 435 ล้านบาท แถมสัญญาณเทคนิคก็เป็นใจ หุ้นมีโอกาสไปต่อได้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ถูกเทขายทำกำไรจนเข้าเขต oversold บวกกับมีข่าวแว่วว่า ใกล้จะมีข่าวดีออกมาอีก…ลองเปิดใจรับไว้ดูก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรหรอกค่ะ
*ส่วนในรายของ BANPU เป็นอีกรายที่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์แบล็กมันเดย์ ก่อนจะมาปิดที่ 16.30 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 5.20% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.19 พันล้านบาท มันเป็นผลมาจากแรงซื้อกองทุนตัวแสบล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับประเด็นอื่นสักเท่าไหร่? ส่งผลให้ชะตาชีวิตของหุ้นตัวนี้ผูกติดกับพฤติกรรมนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก งานนี้หากต้องการให้หุ้นวิ่งขึ้นยาวๆ ต้องไปบอกพวกผู้จัดการกองทุนตัวแสบทั้งหลายแหล่กันเอาเอง เนื่องจาก “โมนิก้า” ไม่ชอบพูดอะไรหวานๆ กับพวกปากอย่างใจอย่างหรอกค่ะ
*ย้อนกลับมาดูที่หุ้นทีเด็ดอย่าง AUCT เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ “ชอบของดี ราคาย่อมเยา” หลังจากโดนถล่มจนร่วงมา 2 วันติด วานนี้สามารถเทกตัวผ่านแนวต้าน 8.50 บาท ได้สำเร็จ ก่อนจะกระชากตัวขึ้นมาปิดที่ 8.65 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือ 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 385 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากงานประมูลรถช่วยหนุนเต็มสูบ “โมนิก้า” ถึงเชื่อในใจลึกๆ ว่า ในไตรมาสนี้ผลงานสุดติ่งกระดิ่งแมวอย่างแน่นอน..งานนี้หากเดี๊ยนคาดคะเนเรื่องดังกล่าวผิดเพี้ยนไปละก็ ยอมให้คุณพี่ “สุวิทย์ ยอดจรัส” หอมแก้มหนึ่งฟอด…อิอิอิ
*ส่วนในรายของ FIRE หลังจากถูก “บ.ชิลแมทช์” ทำ Reverse Takeover หรือที่เข้าใจชัดๆ ง่ายๆ ก็คือ ฮุบกิจการแบบย้อนศร อธิบายให้ง่ายกว่าเดิมคือ การเข้าไปซื้อกิจการเขา แต่เป็นการออกหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 234.5 ล้านหุ้น ให้แทนจ่ายเงินสด ซึ่งการแลกหุ้นครั้งนี้ส่งผลให้ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 40.12% และจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์” หรือ HARN แว่วมาว่า แผนธุรกิจแรกที่จะทำร่วมกันนั้นเน้นไปทางเครื่องปรับอากาศ แหม..วางแผนมาดีขนาดนี้ แต่ทำไมดันพลาดขั้นตอนสำคัญอย่างการแจ้งทำเทนเดอร์ฯ กับตลท. ละเจ้าคะ?
*สำหรับในรายของSYNTEC หลังจากโดนหางเลขร่วงหนักตามภาวะตลาดไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดวิ่งกลับขึ้นปิดที่ 3.76 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 3.30% ด้วยมูลค่า 33.81 ล้านบาท โดยประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่หุ้นปรับลงจากระดับสูงสุด 4.20 บาท จึงมีอัพไซด์ให้เข้ามาเล่นรอบอีกครั้ง แถมสิ้นปีนี้ยังมีลุ้นประมูลงานใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาทอีกแบบนี้…เข้าเก็บไม้สองก็ยังทันนะคะ
*เฟื่องฟูสุดขีดต้องยกให้ TFG หลังทำรายได้ทุบสถิติ กำไรก็เลยเพิ่มพูนเป็นเงาตามตัว เลยล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงล่าสุดพูดกันหนาหูว่า ผลงานในครึ่งปีหลังจะเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากราคาไก่กับหมูยังอยู่ในระดับสูง แถมเตรียมโชว์เพาเวอร์จ่ายปันผลในปี 2560 อีกต่างหาก…เรื่องหวานๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะความเนื้อหอมทำให้คนจากต่างแดนรุมจีบตรึม เลยต้องรีบเพิ่มศักยภาพในการผลิตขึ้นมา พร้อมเร่งขยายการส่งออกทันที กูรูขาเลยให้เป้า 6.20 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 5.05 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 5% เท่านั้นเองเจ้าค่ะ
*ปิดท้ายด้วยหุ้นเด้งเร็ว KOOL เข้าตามโพยของ “ข่าวหุ้น” แบบเหน่งๆ ด้วยการพุ่งมาปิดที่ระดับ 6.35 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือ 17.60% เทียบกับราคาหุ้นเมื่อวันจันทร์ร่วงหนักถึง 16.30% งานนี้คงปลื้มปริ่มกันสุดๆ ส่วนใครที่จะเข้ามาเล่นต่อวันนี้ “โมนิก้า” ต้องขอเตือนและหาจังหวะเข้าออกให้ดี หลังกูรูให้เป้าแค่ 6.50 บาท อีกทั้งทิศทางครึ่งปีหลังรายได้วูบลง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนและฤดูหนาว ทำให้ความต้องการพัดลมไอเย็นไม่สูงเท่าช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ในฤดูร้อน งานนี้อาจหนาวสมชื่อหุ้นก็เป็นได้หากเข้าไม่ดูตาม้าตาเรือเจ้าค่ะ