เปิดสูง..ปิดต่ำ..น่ากลัว!โมนิก้าและทีมงาน
*บรรยากาศการลงทุนวานนี้เหมือนเป็นการหลอกไปสังหารหมู่ตามแบบฉบับนักเล่นเลือดเย็น ซึ่งเป็นเกมหุ้นที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นเกิดอาการไม่แน่ใจ จึงต้องดันหุ้นเพื่อสำรวจแรงซื้อว่ามีมากมายขนาดไหน และเมื่อดันไปสักระยะหนึ่งไม่มีคนเข้ามารับไม้ต่อ จึงหันมาใช้ยุทธวิธีดักเก็บหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแบกต้นทุนของตัวเองเจ้าค่ะ
*บรรยากาศการลงทุนวานนี้เหมือนเป็นการหลอกไปสังหารหมู่ตามแบบฉบับนักเล่นเลือดเย็น ซึ่งเป็นเกมหุ้นที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นเกิดอาการไม่แน่ใจ จึงต้องดันหุ้นเพื่อสำรวจแรงซื้อว่ามีมากมายขนาดไหน และเมื่อดันไปสักระยะหนึ่งไม่มีคนเข้ามารับไม้ต่อ จึงหันมาใช้ยุทธวิธีดักเก็บหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแบกต้นทุนของตัวเองเจ้าค่ะ
*งานนี้ไม่ต้องถามหาเรื่องหน้าเสื่อในการรับหุ้น และไม่ต้องถามถึงเหตุผลในการทิ้งหุ้น เพราะสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องของการจับจังหวะจะโคนล้วนๆ หลังยอดซื้อสุทธิอยู่ที่กองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว ส่วนฝั่งขายกลายเป็นปอบผีฟ้า กับพลพรรคแมงเม่านั้น มันเป็นการสลับบทบาทในการทำมาหากินธรรมดาๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างหวาดเสียวนะคะ
*เนื่องจากรูปแบบที่ดัชนีเด้งขึ้นไปถึงระดับ 1,511.62 จุด หรือบวกขึ้นไปถึง 13 จุด แต่สุดท้ายทรุดตัวลงมา ปิดที่ 1,487.20 จุด ลบไป 9.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.63 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งยวด เพราะอาการที่แสดงออกในเที่ยวนี้คือ เปิดสูง..ปิดต่ำ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมที่เคยเม้าท์ให้ฟังตั้งแต่วันก่อนว่า มีโอกาสลงต่อสูงเจ้าค่ะ
*สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนต้องเม้าท์เช่นนั้น ล้วนเป็นผลมาจากดัชนีลงมาใกล้เส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 1,475 จุด ซึ่งเป็นจุดเด้งกลับของรอบก่อนหน้านี้ ส่งผลให้วันนี้กลายเป็นวันชี้ชะตาของตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเสียววาบไปทุกรูขุมขนบนผิวหนัง เพราะการยืนหยัดเหนือแนวรับดังกล่าวเปรียบเสมือนจุดลงทุนรอบใหม่ ส่วนการอ่อนตัวหลุดแนวรับดังกล่าวเปรียบเสมือการลงไปตั้งหลักใหม่ที่บริเวณ 1,395 จุดนะจะบอกให้
*หลายคนอาจเม้ามอยว่า “โมนิก้า” เป็นพวกคนมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า? เดี๊ยนขอบอกตามตรงว่า พูดจากสัญญาณเทคนิคล้วนๆ โดยจุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่งอยู่ตรงค่า RSI กับ Slow Stochastic กำลังจะเข้าสู่เขตขายมากเกินไป ซึ่งอนุมานได้ว่า แรงเทขายจะเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ดัชนีก็พร้อมจะตีกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดอีกรอบนะคะ
*เม้าท์ถึงเรื่องหนักๆ มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้นทีเด็ดอย่าง EPG เพื่อทำให้แฟนคลับได้รับรู้ว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟมันเป็นแบบนี้ แถมวานนี้หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 14.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่า 1.40 พันล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ฐานแนวรับเริ่มขยับตัวสูงขึ้น โอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปยืนเหนือ 15 บาทถึงเกิดขึ้นอีกครั้งไงล่ะค่ะ
*ประเด็นตรงนี้เหมือนกับน้องแจ๊ส JAS กระชากขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดไว้ที่ระดับ 5.95 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.75 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 1.26 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่ารักน่าลุ้นอย่าบอกใครเชียว! เพราะหุ้นกำลังพยายามจะขึ้นไปทดสอบ 6.20 บาทอีกครั้ง การอ่อนตัวลงมาถึงกลายเป็นโอกาสของการเล่นรอบเจ้าค่ะ
*ไหนๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นเล่นรอบขึ้นเป็นบทนำทั้งที “โมนิก้า” ขอกลับหลังหันแบบ 180 องศาไปดูหุ้น CHEWA ให้ชื่นอุราสักเล็กน้อย หลังเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท เหมือนเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่า หุ้นกำลังจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2 บาทอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสของคนที่ชอบโหนกระแสนะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ TGPRO พุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ 0.23 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่ต้องใช้สติมากนิดหนึ่ง ไม่ใช่เฮโลตามกันไปแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และอย่าลืมว่า การกระชากขึ้นเที่ยวนี้ยังเป็นปริศนาที่ต้องไขกันให้ออก จึงต้องเผื่อทางออกให้กับตัวเองตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นอาจติดหุ้นแบบไม่ทันตั้งตัวนะคะ
*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการทำราคาต่ำสุดในรอบ 6 เดือนของหุ้นโรงหนัง MAJOR น่าจะเป็นผลกระทบจากโรงหนังปิ่นเกล้าโดนไฟไหม้ บวกกับหน้าฝนเป็นช่วงที่ยากลำบากในการทำธุรกิจ ส่งผลให้งบในไตรมาส 3 อาจออกมาไม่สวยงาม วานนี้ถึงเห็นหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 28.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่า 176 ล้านบาท โดยจุดต่ำสุดรอบก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. 59 อยู่ที่บริเวณ 24 บาท เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดตามเจ้าค่ะ
*คล้ายคลึงกับการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของหุ้น IFEC มันเป็นจังหวะที่ทำให้ผู้คนมากมายคาบข่าวมาเล่าให้ฟังเยอะแยะไปหมด ล่าสุดก็มีข่าวทำนองที่ว่า แรงเทขายออกมาจากโบรกฯตัว K ซึ่งมีนักลงทุนขาใหญ่รายหนึ่งสาดหุ้นออกมาไม่ยั้ง สภาพของหุ้นก็เลยร่องแร่งไม่มีชิ้นดี “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางที่รับฟังเรื่องดังกล่าวมาระยะหนึ่ง จึงอยากให้นักเล่นลองสืบหาข้อมูลกันเอาเองว่า จริงหรือเปล่า? หลังหุ้นลงมาปิดที่ 5.30 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาททั้งที่ปลายเดือนก่อนยืนอยู่แถว 6.95 บาทนะนายจ๋า..