DIMET โฉมใหม่ ทิศทางใหม่แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

หลังจาก บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ตกเป็นเหยื่อของการฮุบกิจการแบบฉันมิตรไปเมื่อกลางปีก่อน โดยบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC ข่าวสารข้อมูลของบริษัทแห่งนี้ก็เงียบหายไปค่อนข้างยาวนาน


หลังจาก บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน)  หรือ DIMET  ตกเป็นเหยื่อของการฮุบกิจการแบบฉันมิตรไปเมื่อกลางปีก่อน โดยบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC  ข่าวสารข้อมูลของบริษัทแห่งนี้ก็เงียบหายไปค่อนข้างยาวนาน

เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากการพยายามปัดกวาดทำความสะอาดบ้านให้สะอาดเรี่ยมเร้นั่นเอง

งบการเงินของ DIMET  เมื่อสิ้นงวดปี 2559 (ซึ่งไม่เหมือนชาวบ้านเขา คือ ปิดบัญชีวันที่ 30 มิถุนายนของทุกปี) จึงกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดเป็นต้นมา โดยมีกำไรสุทธิ 1.35 ล้านบาท …กำไรน้อย ย่อมดีกว่าขาดทุนเสมอ

การกลับมากำไรสทธิได้ โดยที่ยอดขายไม่เพิ่มขึ้น แถมยังลดลงด้วยซ้ำ หากเข้าไปสำรวจ จะพบว่า เกิดจากการลดต้นทุนของทีมบริหารชุดใหม่ที่ UWC ส่งเข้าไปดำเนินการต่อจากชุดผู้บริหารเดิมเป็นสำคัญ

ผลลัพธ์คือ แม้รายได้จากการขายสีของ DIMET จะลดลง จากปีก่อน 354.29 ล้านบาท มาเหลือที่ 327.37 ล้านบาท แต่ต้นทุนขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลงมาก และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลงด้วย ทำให้กำไรเบื้องต้นเกิดขึ้นมาในทันที

ปฏิบัติการ “รีดไขมัน” ของ DIMET นี้ ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราว ยังไม่ได้ตอบโจทย์แผนธุรกิจในอนาคตมากนัก เพราะการเตรียมความพร้อมจะเคลื่อนย้ายจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสีนั้น จะต้องใคร่ครวญให้รอบคอบและระมัดระวัง

ดังที่ทราบกันดี DIMET ผู้ผลิตสีคุณภาพขนาดเล็ก ที่ระดมทุนเข้ามาแล้วเน้นยุทธศาสตร์ธุรกิจชนิด “พอเพียงไม่ยอมโต” แต่พึงพอใจกับการอยู่ในโลกแคบๆ ในฐานะบริษัทเอกชนเหมือนก่อนเข้าตลาด ย่อมมีโอกาสที่จะประสบชะตากรรมที่คาดเดาได้ไม่ยาก

การเติบโตอย่างล่าช้า และการขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายปีหลังจากเข้ามาจดทะเบียนในตลาดของ DIMET  โดยไม่มีท่าทีฟื้นตัวของกำไรขึ้นมาได้ ในขณะที่เม็ดเงินในส่วนของผู้ถือหุ้นร่อยหรอลงไป ทำให้บริษัทนี้ ตกอยู่ในสภาพเป็นเป้าหมายของการซื้อกิจการจากคนที่ต้องการเข้าตลาดทางประตูหลังได้ง่ายดาย

นับแต่กลางปี 2557 เป็นต้นมา ชื่อของ DIMET กลายสภาพจากหุ้นที่มีการซื้อขายประจำวันเล็กน้อยและแกว่งตัวที่ระดับต่ำกว่า 2 บาทมานานหลายปี กลายเป็นหุ้นที่ร้อนแรงอย่างมาก ติดแคชบาลานซ์ ต่อเนื่องหลายครั้งเป็นระยะๆ  จากข่าวตกเป็นเป้าหมายซื้อกิจการจากบุคคลภายนอก

เบื้องหลังราคาหวือหวาของหุ้น DIMET อยู่ที่การเปิดตัวแรงของกลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นอย่าง นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ เจ้าของฉายา “เสี่ยก๋อย” ซึ่งเคยเข้าออกในหุ้นหวือหวาที่ผลประกอบการคลุมเครืออย่าง บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  ADAM มาแล้ว ได้ประกาศผ่านสื่อว่า สนใจฮุบ DIMET เพื่อนำไปหวังต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจในกลุ่ม โดยอ้างเหตุผลง่ายๆ ว่าเป็นบริษัทที่ตอบโจทย์ที่จะควบรวมกิจการได้กับธุรกิจเดิม

จุดจบของความหวือหวาคือ UWC ได้เข้าเจรจาขอซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารเดิมมาในกำมือ เพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่กำลังจะไม่ขายแค่สีอุตสาหกรรมอีกต่อไป

แล้วในที่สุด หลังจากความเงียบเชียบผ่านไป ผู้บริหารของ DIMET คนใหม่ก็เปิดตัวแถลงข่าวเสียที…กันคนลืม

นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์  ประธานกรรมการ DIMET ออกมาระบุว่า ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายงวดปี 59/60 (ก.ค.59-มิ.ย.60) เติบโตเป็น 500 ล้านบาท ก้าวกระโดดจาก 327 ล้านบาทในงวดปีก่อน โดยเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายสีมากขึ้น โดยปีนี้จะเพิ่มอย่างน้อย 9 สาขา และสนใจที่จะขยายไปยังพื้นที่ จ.ภูเก็ต, สงขลา, พิษณุโลก และชลบุรี เพิ่มเติมอีก ส่งผลให้บริษัทจะมีตัวแทนจำหน่ายทั้งสิ้น 54 ราย

ผลของการ “ล้างบ้าน” ทำให้ คาดว่าสิ้นงวดงบปี 2559/60 DIMET จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 17 ล้านบาทได้ทั้งหมด โดยจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาล้างขาดทุนสะสม เพราะงวดปีนี้จะสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ระดับ 20% และอัตรากำไรสุทธิ 10-15% จากการบริหารจัดการที่ดี และการเพิ่มยอดขาย

ที่สำคัญ เศรษฐกิจในปีนี้ก็เริ่มมีการฟื้นตัว จากกำลังซื้อที่มากขึ้น และภาคอสังหาริมทรัพย์ก็มีการลงทุน ขณะที่ภาครัฐก็มีการใช้เงินลงทุน ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ หรือแม้กระทั่งระบบชลประทาน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของ DIMET

นอกจากนั้น DIMET ยังเดินหน้ากลยุทธ์หารูปแบบการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อเข้าไปรับงานภาครัฐ รวมถึงยังมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายในกลุ่มโครงการอาคารที่มีแผนปรับปรุง หรือรีโนเวทของเดิม เพื่อสร้างพลังผนึกด้วย

DIMET ยังวาดแผนอนาคตต่อ ตั้งเป้าหมายยอดขายจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 800 ล้านบาท ในงวดปี 2560/61 จากการรับจ้างผลิตสี (OEM) กับคู่ค้าในจีน  คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และจะมีโอกาสทำให้การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 1 แสนลิตร/เดือน จากกำลังการผลิตที่รองรับได้ 4 แสนลิตร/เดือน

คำตอบยังไม่มากพอ DIMET จึงวาดฝันต่อถึงอนาคต เพื่อลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์ม เบื้องต้นจะมีกำลังการผลิต 10-20 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4 หรือ กลางปีหน้า

เห็นอนาคตที่สดใสก็ชื่นใจแทนผู้ถือหุ้นของ DIMET หากว่าไม่ใช่แค่การขายฝัน เพราะจากนี้ไปจะได้เวลาผงาดเสียที ….แม้จะไม่ใหญ่โตเหมือนพญาอินทรี แต่ก็สามารถเป็นเหยี่ยวถลาลมได้…

 “อิ อิ อิ”

Back to top button