SCN กองไฟในน้ำมันแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
โดยปกติ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร น่าจะเริ่มรู้สึกตัวว่า ได้แหย่มือเข้าไปเขี่ยกองไฟเข้าเต็มๆ อย่างไรเดียงสา เพียงแต่งานนี้ จะถอยหรือเดินหน้าต่อ ยังต้องติดตามกันต่อไป
โดยปกติ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร น่าจะเริ่มรู้สึกตัวว่า ได้แหย่มือเข้าไปเขี่ยกองไฟเข้าเต็มๆ อย่างไรเดียงสา เพียงแต่งานนี้ จะถอยหรือเดินหน้าต่อ ยังต้องติดตามกันต่อไป
เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากการที่ ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด ของ SCN ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ จำกัด จากฮ่องกง เพื่อรับสิทธินำก๊าซธรรมชาติที่เกิดจากกระบวนการขุดเจาะน้ำมัน (Associated Gas) ไปใช้ประโยชน์
เงื่อนไขของสัญญา ระบุว่า การได้รับสิทธิดังกล่าว SCN จะเข้าไปรับซื้อ Associated Gas จากบ่อน้ำมัน700,000 ลูกบาศก์คิวบิกฟุตต่อวัน ในรูปแบบจ่ายตามปริมาณการนำก๊าซไปใช้จริง
บ่อน้ำมันที่จะเอาแก๊สมาใช้ประโยชน์คือ บ่อน้ำมัน ที่จังหวัดเพชรบูรณ์
เป้าหมายของ SCN ในการเข้าไปทำข้อตกลง ก็เป็นไปตามหลักการทางธุรกิจปกติ เพราะว่า ต้องการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งการดำเนินธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV และธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม หรือ CNG
ตามแผนดำเนินงานนั้น ดร.ฤทธี ระบุว่า บริษัทฯ จะติดตั้งอุปกรณ์เพื่อนำก๊าซธรรมชาติจากบ่อน้ำมันที่มีค่าความร้อนสูง มาผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพก๊าซให้มีค่าความร้อนที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงยานยนต์ เพื่อจำหน่ายต่อไปยังสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV ที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเพชรบูรณ์หรือจังหวัดใกล้เคียง โดย SCN มีแผนลงทุนขยายสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV เพิ่มอีก 1 แห่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนลงทุน โดยการเจรจาขอใช้พื้นที่ของสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาเป็นสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ NGV หรืออาจพัฒนาขึ้นใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 120 ล้านบาท
แผนงานดังกล่าว ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่บังเอิญหลุมน้ำมันของคู่สัญญาของ SCN มันเป็นเป้าหมายที่ “ล่อเป้า” ของบรรดานักต่อต้านการ “ขายชาติ” ในเรื่องน้ำมันในกลุ่มเอ็นจีโอบางคน ที่พร้อมจะบิดเบือนข้อมูลเพื่ออ้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวของตนเอง…ทุกรูปแบบ…ทุกราคา
เรื่องธรรมดา ของ SCN จึงกลายมาเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะ จู่ๆ ก็มีข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งถึงการที่ “…ทหารบุกยึดบ่อน้ำมันจากนายทุนต่างชาติ วอน ปตท.หยุดหลอกคนไทยเสียที!!”
จู่ๆ กลายเป็นเรื่องของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ขายชาติไปเสียฉิบ…เง็งตามๆ กัน
หลุมน้ำมันที่เพชรบูรณ์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของนิทานเรื่อง “ประเทศไทยมีน้ำมันมากกว่าซาอุดีอาระเบีย” ของบรรดาขาใหญ่ต่อต้านการขุดน้ำมันทุกกรณีของกลุ่มเอ็นจีโอ และพวกรักชาติจนน้ำลายไหลย้อยทั้งหลาย
หลุมน้ำมันเพชรบูรณ์นี้ เป็นสัมปทานของบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ตามสัญญาสัมปทานปิโตรเลียม ของกระทรวงพลังงาน เลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 และ เลขที่ 5/2546/62 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L33/43 โดยที่วันออกสัมปทานคือ 17 กรกฎาคม 2546 (มติ ครม. 26 พฤษภาคม 2546) วันสิ้นสุดระยะเวลาสำรวจ 16 กรกฎาคม 2555 และวันสิ้นสุดระยะเวลาผลิต 16 กรกฎาคม 2575
บริษัทอีโค่ โอเรียนท์ ฯ ไม่ใช่ผู้เริ่มต้นสัมปทาน แต่ซื้อหุ้นต่อมาจากบริษัท แพน โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ซื้อกิจการมาอีกต่อจากเจ้าของสัมปทานเริ่มแรก บริษัท แปซิฟิค ไทเก้อร์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด 100%
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ นับตั้งแต่ได้รับสัมปทานและดำเนินการสำรวจ จนถึงการผลิต ปรากฏว่า ประวัติการผลิตน้ำมันดิบของบริษัทฯ เคยผลิตในอัตราสูงสุด 12,500 บาร์เรลต่อวัน ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2551 แต่หลังจากนั้น อัตราการผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว
เหตุผลที่นำมาอ้างคือ การผลิตน้ำมันดิบของหลุมในแหล่งส่วนใหญ่ได้มาจากชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียมที่เป็นหินภูเขาไฟ ซึ่งธรรมชาติของแหล่งกักเก็บชนิดนี้จะผลิตน้ำมันดิบได้ในปริมาณสูงในช่วงแรกเท่านั้น เนื่องจากหินภูเขาไฟมีคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บน้ำมันดิบได้น้อย จึงหมดไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น ยังประสบปัญหาในการผลิตน้ำในอัตราสูงจนเป็นเหตุให้ต้องปิดหลุมผลิตบางส่วน
ข้อมูลที่เป็นทางการระบุว่า อีโค่ โอเรียนท์ฯ ผลิตอะไรได้บางในแต่ละวัน จากพื้นที่ผลิตย่านตะวันออก, บ่อรังเหนือ, อำเภอวิเชียรบุรี จากฐานผลิต 45 ฐาน และ 24 หลุมผลิต ประกอบด้วย 1) น้ำมันดิบเฉลี่ย 4,790 บาร์เรลต่อวัน 2)ปริมาณน้ำเฉลี่ย 3,583 บาร์เรลต่อวัน 3) ปริมาณก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 1.113 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2557)
จิ๊บจ๊อยขนาดนี้ นักสำรวจน้ำมันทั้งหลาย พากันงอหาย…ไม่เจ๊งก็บุญแล้วจ้า
ตามสัญญาที่ SCN ทำไว้นั้น จะเห็นได้ว่ามีปริมาณเพียงแค่ 3 คันรถบรรทุกเท่าน้นเอง ไม่ได้มากมายอะไรเลย…ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มทุนหรือไม่ …ด้วยซ้ำ
ปฏิบัติการ “ชิงพื้นที่สื่อ” …โดยอ้างเอาข่าวเก่าเก็บที่ใครก็รู้ว่าไม่มีมูลน่าเชื่อถืออะไร มาป่าวร้องซ้ำอีก…ในนามของความรักชาติ…ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรุกที่ดิน สปก….ได้น้ำมันไม่เสียค่าภาคหลวง…ฯลฯ ฉายซ้ำอีกครั้ง
ที่แน่ๆ คนกลุ่มนี้รู้ดีว่า การตั้งข้อหานั้น ถ้าจะให้ชอบธรรมยิ่งขึ้น ต้องลากเอา”ผู้ร้ายตัวจริง”อย่าง PTT มาเกี่ยวโยงด้วย…ให้สมกับข้อกล่าวหาว่าชั่ว
นี่เป็นแค่ยกแรกเท่านั้น…ยกต่อไปของ SCN ยังต้องมีอีก โปรดติดตาม
“อิ อิ อิ”