BEC ถอยหลังลงคลอง
ก่อนอื่นต้องบอกให้นักลงทุน และคนทั่วไปได้รับทราบกันอีกครั้งว่า การเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอลคือการเปิดทางเลือกให้กับผู้ชมทีวีที่มากขึ้นกว่าเดิม และการเข้ามาของช่องทีวีใหม่ๆ ก็เป็นผลมาจากรายได้เม็ดเงินโฆษณาจำนวนมหาศาลเป็นตัวล่อใจ ส่งผลให้ผู้ผลิตทีวีเจ้าใหม่ๆ กระโจนเข้ามาทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
คุณผกามาศ จากพระราม 2 กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น BEC หรือบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) มีเรื่องให้ชวนปวดหัวไม่ใช่น้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทเต็มๆ จนตัวดิฉันใคร่อยากรู้ว่า ธุรกิจทีวีจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่? เพราะทนเห็นราคาหุ้นไหลรูดลงมาอย่างต่อเนื่องไม่ได้อีกแล้วค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกให้นักลงทุน และคนทั่วไปได้รับทราบกันอีกครั้งว่า การเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอลคือการเปิดทางเลือกให้กับผู้ชมทีวีที่มากขึ้นกว่าเดิม และการเข้ามาของช่องทีวีใหม่ๆ ก็เป็นผลมาจากรายได้เม็ดเงินโฆษณาจำนวนมหาศาลเป็นตัวล่อใจ ส่งผลให้ผู้ผลิตทีวีเจ้าใหม่ๆ กระโจนเข้ามาทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก
นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ช่องฟรีทีวีเริ่มมีปัญหา เพราะเม็ดเงินโฆษณาก้อนเดิมถูกปันส่วนไปให้กับช่องทีวีดิจิตอลที่มีทั้งสิ้น 48 ช่อง (รวมช่อง 3) ส่งผลให้รายได้ของช่องฟรีทีวีเริ่มลดลงอย่างช้าๆ ขณะที่กำไรก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนการแข่งขันที่สูงขึ้นนั่นเอง
เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ตรงกับสถานการณ์ของหุ้น BEC หรือ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ทุกอย่าง และเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้รู้ว่า ธุรกิจที่มีการผูกขาดเพียงไม่กี่เจ้า ย่อมกอบโกยผลกำไรได้อย่างเต็มที่ พอถึงวันที่มีการเปิดช่องให้ผู้เล่นหน้าใหม่จำนวนมากเข้ามาร่วมแบ่งปันเม็ดเงินโฆษณา ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงกับรายได้และกำไรนะครับ
ปี 55 | ปี 56 | ปี 57 | ปี 58 | งวด 6 เดือนปี 59 | |
รายได้รวม | 15,127.81 | 16,696.99 | 16,381.51 | 16,017.91 | 7,190.57 |
กำไรสุทธิ | 4,777.25 | 5,589.48 | 4,414.99 | 2,982.71 | 1,037.37 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 2.39 | 2.79 | 2.21 | 1.49 | 0.52 |
(หน่วย : ล้านบาท)
ข้อมูลเหล่านี้ดูได้จากงบการเงินด้านบนที่แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ของ BEC ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ พร้อมกับเป็นการตอกย้ำว่า หุ้นตัวนี้ไม่ใช่หุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนอีกต่อไป เพราะผลประกอบการที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่องกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้รู้ว่า บริษัทกำลังอยู่ในภาวะถอยหลังเข้าคลอง
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรคาดหวังอะไรที่มากไปกว่านี้ เพราะสิ่งที่คาดเดาได้จากตรงนี้คือ กำไรปี 59 จะลดลงเหลือ 2 พันล้านบาท กำไรต่อหุ้นจะลดลงเหลือ 1 บาท และเมื่อคิดบนค่า P/E 20 เท่า ราคาหุ้น BEC จะอยู่แค่ 20 บาทเท่านั้น ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานยังยืนอยู่แถว 21 บาท
นอกจากนี้เมื่อมองไปข้างหน้า โดยเอาฐานข้อมูลชุดเก่ามาคำนวณแบบหยาบๆ ก็จะเห็นว่า ในปี 60 กำไรของ BEC มีแนวโน้มที่จะลดลงไปอีก เพราะผู้คนหันมาโฆษณาผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียมากขึ้น ย่อมชี้ชัดลงไปอีกขั้นหนึ่งว่า ราคาหุ้นที่บริเวณ 20 บาทอาจสูงเกินไปอีกด้วยซ้ำ
วันนี้อาจารย์พูดได้ทันทีว่า “ทนดูได้” หรือ “ทนดูไม่ได้” ก็หลีกหนีความจริงที่จะปรากฎขึ่นไม่ได้หรอกครับ
…
กราฟประกอบข่าว Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 16 ก.ย.59