JAS จอมซิกแซ็ก?โมนิก้าและทีมงาน
*เปิดหัวสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้า จนผู้เล่นบางคนถึงกับมีอาการมือไม้สั่นดิกๆ มันเป็นผลมาจากนักลงทุนหันมาเล่นเกมเสี่ยงกันเยอะขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นได้จากอาการวิตกจริตกันจนเกินเหตุ แต่บางครั้งก็แสดงอาการห้าวเป้งจนเกินงาม จึงคาดหวังอะไรได้ไม่มากนักในยามนี้นะจะบอกให้
*เปิดหัวสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้า จนผู้เล่นบางคนถึงกับมีอาการมือไม้สั่นดิกๆ มันเป็นผลมาจากนักลงทุนหันมาเล่นเกมเสี่ยงกันเยอะขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นได้จากอาการวิตกจริตกันจนเกินเหตุ แต่บางครั้งก็แสดงอาการห้าวเป้งจนเกินงาม จึงคาดหวังอะไรได้ไม่มากนักในยามนี้นะจะบอกให้
*เม้าท์ถึงเรื่องความหวังของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเกาะติดท่าทีเฟดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เพราะจะเป็นตัวชี้ชะตาตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นไปในทิศทางไหน หลังบางฝ่ายเห็นแย้งว่า คงขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี แต่บางส่วนก็มองว่า น่าจะขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ให้เสร็จไปเลย ส่งผลให้รูปแบบของการลงทุนเที่ยวนี้ยังเป็นการเก็งอนาคตล้วนๆ เจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงมีนักลงทุนหันมาเทขายหุ้นอย่างหนักหน่วง เพราะคิดว่า ไปรอช้อนซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาคุ้มกว่า วานนี้ถึงเห็นดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,473.78 จุด ลบไป 18.95 จุด ด้วยมูลค่า 4.91 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า หุ้นไม่ถูกโฉลกกับดอกเบี้ย! เมื่อใดที่มีการขึ้นดอกเบี้ย หุ้นก็จะลงแรงเป็นประจำ และตัวนักลงทุนจะเห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนระลอกใหม่..หากไม่มีการขยับเขยื้อนอะไรเลย ทุกอย่างก็จะกลับมาดีดั่งเดิมนะจ๊ะ
*ส่วนที่มีกลิ่นไม่ค่อยดีโชยมาแต่ไกลในรอบนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่การกระทำของหนุ่มผู้เร่าร้อน “พิชญ์” กับ ธ.ไทยพาณิชย์ และ บล.ไทยพาณิชย์ ซึ่งการกระทำแต่ละอย่างช่างสอดรับกันเป็นอย่างดี จนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นเริ่มตั้งข้อสงสัยดีลดังกล่าวมีการเตี๊ยมกันมาเป็นอย่างดี และคนที่รับจ๊อบไม่สุดท้ายก็เป็นคนหลังสุดนี้แหละ ซึ่งเดี๊ยนขอถามหน่อยเถอะว่า สุมหัวกันมาพักใหญ่ๆ แล้วใช่ไหมตัวเอง
*เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 59 ดันปรากฏยอดซื้อ 1.60 หมื่นล้านบาท ผ่านทางโบรกเกอร์ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นแบบผิดหูผิดตา จนทำให้มาร์เก็ตแชร์ของวันนั้นพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 16.30% ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง บล.ซีไอเอ็มบี ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์แค่ 7% ชนิดที่มองไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว แถมเมื่อย้อนกลับไปดูข้อมูลโบรกเกอร์สีม่วงวันก่อนๆ ก็พบว่า มีมาร์เก็ตแชร์ไม่เกิน 3.50% นะจะบอกให้
*ตรงจุดนี้คือ สิ่งที่ทุกคนกำลังอยากรู้อย่างหนักว่า ทำไมมูลค่าการซื้อถึงใกล้เคียงกับมูลค่าการเทรดของหุ้น JAS บวกกับโบรกเกอร์แห่งนี้เน้นกลุ่มลูกค้าสถาบันเป็นหลัก ยิ่งเพิ่มความสงสัยในการทำธุรกรรมดังกล่าวมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะวันนั้นปรากฏข้อมูลว่า ฝรั่งหัวทองขายหนัก ปอบผีฟ้าก็สาดไม่ยั้ง ตามด้วยกองทุนตัวแสบก็ปล่อยของออกมาไม่ใช่น้อย ซึ่งแสดงว่า ผู้ซื้อสุทธิของ บล.ไทยพาณิชย์ คือ รายย่อย ใช่ไหมค่ะ
*เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้ “โมนิก้า” สงสัยขึ้นไปอีกขั้นว่า ลูกค้ารายย่อยทำไมมารวมตัวซื้อหุ้นที่โบรกฯสีม่วงแห่งนี้อย่างพร้อมเพรียง แถมวงเงินที่ซื้อหุ้นก็ไม่ใช่บาทสองบาท แต่เป็นหลักหมื่นล้านบาทกันเลยทีเดียว ยิ่งทำให้อารมณ์ของเดี๊ยนคิดไปถึงเรื่องนอมินีอย่างรวดเร็ว เพราะไม่สามารถมองเป็นประเด็นอื่นได้เลยจริงๆ และเรื่องนี้คงเตรียมการมานานเป็นเดือนพะยะค่ะ
*งานนี้ยังมีการพูดถึงเรื่อง เงินกองทุนสภาพคล่อง หรือ NCR ของโบรกเกอร์สีม่วงเพียงพอกับการทำธุรกรรมหรือเปล่า? เพราะข้อมูลที่ “โมนิก้า” เคยมีอยู่ในมือมีการบันทึกไว้ว่า โบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 3% ควรมีเงินกองทุนอยู่ที่ระดับ 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกรรมต่างๆ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่พี่ท่านดันทำธุรกรรมเว่อร์วังอลังการแบบนี้..ฐานทุนพอจริงๆ เหรอจ๊ะ
*เม้าท์ถึงตรงนี้ก็ต้องย้อนไปดูคำสัมภาษณ์ของแบงก์ตราใบโพธิ์ SCB ซึ่งอธิบายถึงขั้นตอนการปล่อยกู้ที่ให้กับ “พิชญ์” มันขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่พ่อหนุ่มจอมซิกแซ็กเทนเดอร์ฯ หุ้นมาได้เท่าไหร่ และการปล่อยกู้ครั้งนี้ก็คำนึงถึงสภาพคล่องของผู้ขอกู้เป็นหลัก? “โมนิก้า” เลยถึงบางอ้อในทันที เพราะเกมนี้ถูกเซ็ตมาจากแบงก์ ต่อจากนั้นโบรกเกอร์ลูกเข้ามารับไม้ต่อ..ดีลจะดัน หรือไม่ดัน ก็ขึ้นอยู่กับ 3 แกนหลักที่น้องโมกล่าวถึงนั่นแหละ!
*ล่าสุดมีการเฉลยออกมาแล้วว่า “พิชญ์” เป็นคนเก็บหุ้นเพิ่มในกระดานผ่าน บล.ไทยพาณิชย์ อีกจำนวน29.42% รวมจำนวนหุ้นภายหลังที่ถือหุ้นทั้งสิ้น60.49% “โมนิก้า” ถือเป็นการปิดเกมที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง จนผู้คนในตลาดหุ้นได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ เพราะประกาศทำเทนเดอร์ปุ๊บ พี่ท่านก็เข้าเก็บหุ้นทันทีปั๊บ..แหม่!..มันช่างเป็นเกมหุ้นที่โหดร้ายสำหรับแมงเม่าไปสักหน่อยนะคะ
*แถมข้อมูลจัดอันดับโบรกเกอร์ล่าสุดรายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ มีการซื้อหุ้นเข้าไปอีก 5 พันกว่าล้านบาท และมาร์เก็ตแชร์ของวานนี้ก็อยู่ในระดับ 7.30% พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นโบรกเกอร์อันดับที่ 3 ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า พ่อหนุ่มคนนี้คงเข้ามาเก็บหุ้นเพิ่มอย่างแน่นอน เพราะดูตามหน้าเสื่อแล้ว คงไม่มีใครฟิตจัดเท่าคนนี้อีกแล้ว…ว่าแต่การกระทำเช่นนี้ ผิดกฎของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเปล่า?…“อิอิอิ”
*ปล.ที่เม้าท์ให้ฟังเสียยืดยาว เพราะต้องการให้นักเล่นได้รู้ว่า เกมหุ้นมันก็เป็นแบบนี้แหละ..คนที่คุมเกมได้ทั้งหมด ย่อมเป็นคนที่ได้เปรียบทุกประตูหน้าต่างพะยะค่ะ