อารมณ์ล้วนๆโมนิก้าและทีมงาน
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับตรงบริเวณ 1,500 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก so sad เมื่อทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับตรงบริเวณ 1,500 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก so sad เมื่อทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
*เนื่องจากอาการทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วงในเที่ยวนี้ มันสะท้อนให้นักเล่นได้รู้ว่า เมื่อเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นเหมือนกับสิ่งที่นักลงทุนสถาบันคิด ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นอีกต่อไป ดัชนีถึงรูดลงมาปิดที่ 1,492.88 จุด ลบไป 13.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า การเล่นรอบกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้หุ้นบลูชิพยังติดอยู่ในวังวนเดิมอีกเจ้าค่ะ
*สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับเริ่มฉุกคิดตั้งแต่วันนี้ เพื่อทำให้การลงทุนมีความคล่องตัวมากขึ้นก็คือ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ยังเป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมจริงไหม? หรือแม้กระทั่งหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กยังเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่เหล่านักเล่นต้องรีบกระโจนใส่หรือเปล่า? มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องมองให้ขาด และต้องเข้าทำให้ทันจังหวะดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะค้างเติ่งอยู่บนดอยนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมองอาการเป๋ไปเป๋มาของดัชนีเป็นเรื่องของอารมณ์ในการลงทุนล้วนๆ ไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่ และดูเหมือนอาการตื่นตกใจในคราวนี้ มันไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนเคยพบเจอสักเท่าไหร่ วันนี้ถึงต้องโฟกัสเรื่องดังกล่าวเป็น “โอกาส” หรือ “อุปสรรค” หลังสงครามข่าวสารในทางลับเริ่มกลับมาระบาดระลอกใหม่นะซี
*ส่วนดาวรุ่งพุ่งแรงที่ “โมนิก้า” ขอเม้าท์ก่อนใครเพื่อนรอบนี้กลายเป็น CKP ภายใต้การกุมบังเหียนของ “ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์” ถือเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่มิตรรักแฟนเพลงต้องติดตามดูให้ดีๆ เพราะรอบนี้มีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 5 บาท หลังจากหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.48 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท เดี๊ยนขอพูดตามตรงว่า มันถึงเวลาของหุ้นตัวนี้แล้วจริงๆ นะคะ
*สำหรับในรายของ IVL ขนาดมีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่าง สุดท้ายทำได้แค่ปิดที่ระดับ 28.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่า 900 ล้านบาท มันเป็นเกมที่น่าอึดอัดใจมากๆ เพราะถ้าดูในแง่ของสัญญาณเทคนิคจะเห็นการโค้งตัวลงค่อนข้างชัดเจน โอกาสที่หุ้นจะไหลลงไปเรื่อยๆ ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว จริงหรือไม่? คอยดูกันไป…อิอิอิ
*ว่าจะไม่เม้าท์ถึง LOXLEY สักประมาณ 1-2 วัน พอเหลือบไปเห็นนักเล่นเคาะขวารัวๆ “โมนิก้า” ก็เกิดอาการหูตาผึ่งขึ้นมาในทันที พร้อมกับบอกกับตัวเองว่า นี่คือหุ้นของนักโหนกระแสอย่างแท้จริง ขนาดภาวะการลงทุนตุปัดตุเป๋ พี่ท่านก็ยังยืนหยัดได้หน้าตาเฉย ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 3.26 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 412 ล้านบาท พร้อมกับแสดงเจตนารมณ์ว่า ต้องการทดสอบ 3.40 บาทอีกครั้งแบบนี้…ห้ามมองข้ามนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่ไม่ควรมองข้ามในยามนี้ได้แก่ JWD กระชากขึ้นมาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตของพวกโหนกระแสเช่นกัน บวกกับก่อนหน้านี้หุ้นพยายามไต่ระดับขึ้นมาอย่างช้าๆ จึงไม่มีเวลาคิดอะไรมากอีกแล้ว หากเช้านี้มีออเดอร์เคาะขวาเป็นจำนวนมาก มันจำเป็นต้องใส่ไว้ก่อน เรื่องอื่นว่ากันทีหลังเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีความหวังในการเล่นรอบ “โมนิก้า” ก็เหลือบไปเห็น KKP ขึ้นมาในทันที เพราะเป็นหุ้นพื้นฐานที่เหมาะต่อการลงทุนจริงๆ ไม่ว่าจะมองในมุมของค่า P/E ที่ 11 เท่า หรือมุมของ P/BV ที่ 1.20 บาท เดี๊ยนมองอย่างไร ก็เห็นราคาปิดที่ 57 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 860 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นได้สบายๆ วันนี้ถึงมีลุ้นเล่นต่ออีกวันไงล่ะค่ะ
*ส่วนในรายของ TSE กลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงอีกครั้ง ประเด็นไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากให้รู้ว่า มันมีเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องหันมามองหุ้นตัวนี้ และราคาหุ้นกำลังพยายามสร้างฐานแนวรับที่บริเวณ 5 บาท การขึ้นมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 309 ล้านบาท น่าจะเป็นการทะยานขึ้นอย่างบูรณาการ หุ้นตัวนี้ถึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยนะซี
*สำหรับคนที่ชอบ “ของเด่น ของดัง” “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่ PIMO เป็นประเด็นหลัก เพราะก่อนหน้านี้เคยเม้าท์ให้ฟังแล้วว่า ตัวบริษัทกำลังมีพัฒนาการที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน และประเด็นดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า จึงเป็นจังหวะของการตามกระแสล้วนๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 2.72 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่า 254 ล้านบาท เดี๊ยนขอแนะนำให้มองตรงกรอบ 3 บาทก็พอเจ้าค่ะ
*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของ ITEL ซึ่งเป็นหุ้นที่มีคนทยอยเก็บของมาระยะหนึ่ง ก่อนจะระเบิดอารมณ์ด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.15 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่า 160 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องใส่ให้มันสุดเหวี่ยงกันไปเลย เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ของเขาดีจริงๆ! แถมหุ้นโดนจับซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด เท่ากับเป็นการกรองผู้เล่นอีกชั้นหนึ่งแบบนี้…ทางโล่งเลยพะยะค่ะ